×

ปภ. รายงานเหตุอุทกภัยในพื้นที่รวม 30 จังหวัด ประชาชนเดือดร้อนกว่า 4 แสนครัวเรือน

โดย THE STANDARD TEAM
22.10.2022
  • LOADING...
อุทกภัย

วันนี้ (22 ตุลาคม) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่รวม 30 จังหวัด 146 อำเภอ 950 ตำบล 6,622 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบรวม 424,664 ครัวเรือน 

 

โดยอิทธิพลของร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักต่อเนื่องและฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยในช่วงวันที่ 16-22 ตุลาคมนี้ ส่งผลให้เกิดอุทกภัยในภาคใต้รวม 7 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต, พังงา, สตูล, กระบี่, สงขลา, ตรัง และนราธิวาส รวม 23 อำเภอ 66 ตำบล 256 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,071 ครัวเรือน 

 

ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัด รวม 4 อำเภอ 9 ตำบล 49 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,529 ครัวเรือน ดังนี้ 

 

  1. ภูเก็ต ยังมีน้ำท่วมเส้นทางจราจรในพื้นที่ตำบลรัษฎา อำเภอเมืองภูเก็ต ระดับน้ำลดลง

 

  1. สตูล ยังมีน้ำท่วมในอำเภอละงู รวม 5 ตำบล 41 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,411 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง 

 

  1. นราธิวาส เกิดน้ำป่าไหลหลากใน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสุคิริน และอำเภอแว้ง รวม 3 ตำบล 7 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 118 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

 

ขณะที่ผลกระทบจากฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการระบายน้ำจากเขื่อนลงแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขา ซึ่งส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขัง โดยตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน – 22 ตุลาคม เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่รวม 59 จังหวัด 352 อำเภอ 1,869 ตำบล 11,690 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 520,494 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 6 ราย 

 

ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่รวม 27 จังหวัด รวม 142 อำเภอ 941 ตำบล 6,573 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 423,135 ครัวเรือน แยกเป็น 

 

  1. พิษณุโลก น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางระกำ และอำเภอพรหมพิราม รวม 17 ตำบล 87 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,903 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

 

  1. พิจิตร น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสามง่าม, อำเภอบึงนาราง, อำเภอเมืองพิจิตร, อำเภอตะพานหิน, อำเภอโพทะเล, อำเภอโพธิ์ประทับช้าง และอำเภอบางมูลนาก รวม 21 ตำบล 256 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,017 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

 

  1. นครสวรรค์ น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพยุหะคีรี, อำเภอโกรกพระ, อำเภอเมืองนครสวรรค์, อำเภอท่าตะโก, อำเภอเก้าเลี้ยว, อำเภอลาดยาว และอำเภอชุมแสง รวม 34 ตำบล 180 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 26,201 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

 

  1. ขอนแก่น น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองขอนแก่น, อำเภอชนบท, อำเภอน้ำพอง, อำเภอโคกโพธิ์ไชย, อำเภอบ้านไผ่ และอำเภอแวงใหญ่ รวม 13 ตำบล 48 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 120 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

 

  1. มหาสารคาม น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองมหาสารคาม, อำเภอกันทรวิชัย, อำเภอโกสุมพิสัย และอำเภอเชียงยืน รวม 46 ตำบล 549 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 13,565 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

 

  1. กาฬสินธุ์ น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอร่องคำ, อำเภอฆ้องชัย, อำเภอกมลาไสย, อำเภอกุฉินารายณ์, อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ และอำเภอยางตลาด รวม 24 ตำบล 181 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,311 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

 

  1. ร้อยเอ็ด น้ำท่วมในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโพนทราย อำเภอจังหาร อำเภอเชียงขวัญ อำเภอโพธิ์ชัย อำเภอพนมไพร อำเภอเสลภูมิ อำเภอธวัชบุรี, อำเภอหนองฮี, อำเภอทุ่งเขาหลวง และอำเภอสุวรรณภูมิ รวม 31 ตำบล 140 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,844 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

 

  1. ยโสธร น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอค้อวัง, อำเภอคำเขื่อนแก้ว, อำเภอเมืองยโสธร และอำเภอมหาชนะชัย รวม 20 ตำบล 47 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 24 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

 

  1. นครราชสีมา น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอพิมาย อำเภอชุมพวง และอำเภอเมืองยาง รวม 18 ตำบล 167 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,433 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

 

  1. บุรีรัมย์ น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสตึก และอำเภอคูเมือง รวม 7 ตำบล 30 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,105 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

 

  1. สุรินทร์ น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชุมพลบุรี อำเภอท่าตูม และอำเภอรัตนบุรี รวม 20 ตำบล 91 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 20,246 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

 

  1. ศรีสะเกษ น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองศรีสะเกษ, อำเภอกันทรารมย์, อำเภอราษีไศล, อำเภอยางชุมน้อย และอำเภอศิลาลาด รวม 30 ตำบล 238 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,983 ครัวเรือน อพยพประชาชน 913 ครัวเรือนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว 35 จุด มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ระดับน้ำลดลง

 

  1. อุบลราชธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี, อำเภอวารินชำราบ, อำเภอสว่างวีระวงศ์, อำเภอตาลสุม, อำเภอดอนมดแดง, อำเภอสำโรง, อำเภอพิบูลมังสาหาร, อำเภอเขื่องใน, อำเภอสิรินธร รวม 35 ตำบล 260 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,569 ครัวเรือน อพยพประชาชน 281 ชุมชนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว 107 จุด ระดับน้ำลดลง

 

  1. อุทัยธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุทัยธานี และอำเภอหนองขาหย่าง รวม 13 ตำบล 60 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,195 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

 

  1. ชัยนาท น้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยนาท, อำเภอวัดสิงห์, อำเภอมโนรมย์, อำเภอสรรพยา, อำเภอหนองมะโมง, อำเภอหันคา, อำเภอเนินมะขาม และอำเภอสรรคบุรี รวม 40 ตำบล 272 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 14,914 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

 

  1. สิงห์บุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภออินทร์บุรี, อำเภอเมืองสิงห์บุรี, อำเภอท่าช้าง, อำเภอพรหมบุรี, อำเภอบางระจัน และอำเภอค่ายบางระจัน รวม 25 ตำบล 148 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 19,587 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

 

  1. อ่างทอง น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวิเศษชัยชาญ, อำเภอป่าโมก, อำเภอไชโย, อำเภอเมืองอ่างทอง, อำเภอโพธิ์ทอง และอำเภอแสวงหา รวม 49 ตำบล 287 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 19,532 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

 

  1. พระนครศรีอยุธยา น้ำท่วมในพื้นที่ 15 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสนา, อำเภอผักไห่, อำเภอบางบาล, อำเภอบางไทร, อำเภอบางปะอิน, อำเภอพระนครศรีอยุธยา, อำเภอบางปะหัน, อำเภอท่าเรือ, อำเภอนครหลวง, อำเภอมหาราช, อำเภออุทัย, อำเภอวังน้อย, อำเภอภาชี, อำเภอบ้านแพรก และอำเภอบางซ้าย รวม 163 ตำบล 1,045 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 76,691 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ระดับน้ำทรงตัว

 

  1. ปทุมธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก รวม 21 ตำบล 62 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,619 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

 

  1. นนทบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปากเกร็ด, อำเภอเมืองนนทบุรี, อำเภอบางใหญ่, อำเภอบางกรวย และอำเภอบางบัวทอง รวม 42 ตำบล 271 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 111,056 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

 

  1. ลพบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี และอำเภอบ้านหมี่ รวม 14 ตำบล 63 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,848 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

 

  1. สุพรรณบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี อำเภอบางปลาม้า และอำเภอสองพี่น้อง รวม 43 ตำบล 271 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 26,105 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

 

  1. นครปฐม น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครปฐม, อำเภอกำแพงแสน, อำเภอดอนตูม, อำเภอพุทธมณฑล, อำเภอสามพราน, อำเภอบางเลน และอำเภอนครชัยศรี รวม 97 ตำบล 791 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 20,382 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง

 

  1. นครนายก น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอองครักษ์ รวม 10 ตำบล 94 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,572 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง 

 

25 .สระบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหนองโดน อำเภอบ้านหมอ และอำเภอดอนพุด รวม 9 ตำบล 66 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,686 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

 

  1. ปราจีนบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกบินทร์บุรี, อำเภอเมืองปราจีนบุรี, อำเภอประจันตคาม, อำเภอศรีมหาโพธิ, อำเภอบ้านสร้าง และอำเภอศรีมโหสถ รวม 42 ตำบล 278 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 12,980 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

 

  1. ฉะเชิงเทรา น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอราชสาส์น อำเภอบางน้ำเปรี้ยว และอำเภอคลองเขื่อน รวม 9 ตำบล 71 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,370 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

 

สำหรับการให้ความช่วยเหลือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัย ได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระบายน้ำท่วมและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X