วันนี้ (11 ตุลาคม) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ ในช่วงวันที่ 23 กันยายน ถึง 11 ตุลาคม 2564 เกิดอุทกภัยใน 33 จังหวัด รวม 222 อำเภอ 1,185 ตำบล 8,056 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 323,523 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 9 ราย สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 17 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 16 จังหวัด ซึ่ง ปภ. ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือประชาชนต่อไป
สำหรับอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ ซึ่งเคลื่อนตามแนวร่องมรสุมเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน ถึงปัจจุบันส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 33 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร เลย ขอนแก่น มหาสารคาม ชัยภูมิ ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนครปฐม
รวม 222 อำเภอ 1,185 ตำบล 8,056 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 323,523 ครัวเรือน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 17 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พิจิตร เพชรบูรณ์ ตาก กำแพงเพชร บุรีรัมย์ นครปฐม ยโสธร สุรินทร์ เลย
ศรีสะเกษ สระแก้ว จันทบุรี ปราจีนบุรี ชัยนาท มีผู้เสียชีวิต 9 ราย
ยังคงมีสถานการณ์ 16 จังหวัด รวม 64 อำเภอ 384 ตำบล 1,998 หมู่บ้าน 95,233 ครัวเรือน ดังนี้
- สุโขทัย ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสุโขทัย ศรีสำโรง และคีรีมาศ ระดับน้ำลดลง
- พิษณุโลก ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางระกำ วังทอง และพรหมพิราม ระดับน้ำลดลง
- ขอนแก่น ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแวงน้อย, แวงใหญ่, โคกโพธิ์ชัย, ชนบท, มัญจาคีรี, พระยืน, บ้านแฮด, บ้านไผ่ และเมืองขอนแก่น ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำลดลง
- มหาสารคาม มวลน้ำจากจังหวัดขอนแก่นไหลเข้าท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโกสุมพิสัย กันทรวิชัย และเมืองมหาสารคาม ซึ่งเป็นพื้นที่การเกษตร ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- ชัยภูมิ ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอคอนสวรรค์ ระดับน้ำลดลง
- นครราชสีมา ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโนนสูง พิมาย คง แก้งสนามนาง ประทายทเฉลิมพระเกียรติ ชุมพวง เมืองยาง ระดับน้ำลดลง
- อุบลราชธานี ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และวารินชำราบ ระดับน้ำลดลง
- นครสวรรค์ ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครสวรรค์ พยุหะคีรี และโกรกพระ ระดับน้ำลดลง
- อุทัยธานี ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอเมืองอุทัยธานี ระดับน้ำลดลง
- ลพบุรี ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี บ้านหมี่ และโคกสำโรง ระดับน้ำลดลง
- สระบุรี ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสระบุรี เสาไห้ หนองโดน บ้านหมอ และดอนพุด ระดับน้ำลดลง
- สุพรรณบุรี ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางปลาม้า และสองพี่น้อง ระดับน้ำทรงตัว
- สิงห์บุรี ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภออินทร์บุรี เมืองสิงห์บุรี พรหมบุรี และท่าช้าง ระดับน้ำทรงตัว
- อ่างทอง ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอ่างทอง ไชโย ป่าโมก วิเศษชัยชาญ และสามโก้ ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองโผงเผง ซึ่งอยู่นอกเขตคันกั้นน้ำ ระดับน้ำทรงตัว
- พระนครศรีอยุธยา น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอผักไห่ เสนา บางบาล พระนครศรีอยุธยา บางไทร บางปะอิน ท่าเรือ นครหลวง บางปะหัน มหาราช ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และคลองโผงเผง ซึ่งอยู่นอกคันกั้นน้ำ ระดับน้ำทรงตัว
- ปทุมธานี เจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ริมน้ำ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานีและสามโคก ระดับน้ำลดลง
ภาพรวมสถานการณ์ปัจจุบันหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ ขณะที่พื้นที่ลุ่มเจ้าพระยามีระดับน้ำยังทรงตัว ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง