×

ไชยชนก เคาะ 5 มาตรการปลดล็อก รย.17-18 หนุน ไรเดอร์-ไดรเวอร์ 2 แสนรายเข้าระบบ พร้อมช่วยเหลือสูงสุด 2 หมื่นบาท/ราย

โดย THE STANDARD TEAM
17.11.2025
  • LOADING...
ไชยชนก เคาะ 5 มาตรการปลดล็อก รย.17-18 หนุน ไรเดอร์-ไดรเวอร์ 2 แสนราย เข้าระบบ พร้อมช่วยเหลือสูงสุด 2 หมื่นบาท/ราย

วันนี้ (17 พฤศจิกายน) ไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นประธานการแถลงข่าวความคืบหน้ามาตรการบรรเทาผลกระทบให้แก่กลุ่มผู้ขับขี่รถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน พร้อมด้วย มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

ไชยชนก กล่าวว่า ภายหลังการรับหนังสือร้องเรียนจากไรเดอร์ และไดรเวอร์ เรื่องประกาศเรื่องรถรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (รย.17 และ รย.18) ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ขับขี่กว่า 200,000 ราย เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา กระทรวงดีอี และกระทรวงคมนาคม โดย ETDA และกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้เร่งประสานงาน สถาบันการเงิน และภาคเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาผลกระทบดังกล่าว และกำหนดเป็น 5 มาตรการสำคัญในการช่วยเหลือไรเดอร์และไดรเวอร์ทั่วประเทศ โดยมีกรอบระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 – 28 กุมภาพันธ์ 2569 ดังนี้

 

1. ลงทะเบียนผู้ขับขี่สำหรับจดทะเบียนรถรับจ้างสาธารณะผ่านแอปฯ

 

  • โดย ETDA โดยเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://driververify.mdes.go.th (ล็อกอินผ่าน Thai ID) ไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2569 ซึ่งเมื่อข้อมูลได้รับการยืนยันจากแพลตฟอร์ม จะได้รับใบรับแจ้งลงทะเบียน (QR Code) เพื่อใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที และผู้ขับขี่จะต้องดำเนินการจดทะเบียนเป็นรถสาธารณะและทำใบขับขี่สาธารณะกับกรมการขนส่งทางบกให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2569

 

2.แก้ปัญหาไฟแนนซ์-ลีสซิ่ง-ประกันภัย

 

  • กรมการขนส่งทางบก อนุญาตให้รถที่ติดไฟแนนซ์สามารถใช้สำเนาใบคู่มือจดทะเบียน ยื่นจดทะเบียนแทนเล่มจริงได้ ไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2569
  • ขอความร่วมมือบริษัทลีสซิ่งทุกราย ลดค่าธรรมเนียมเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อ โดยขณะนี้ ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) จะนำร่องเป็นรายแรก จากเดิม 1% ของยอดเงินคงเหลือตลอดสัญญา เหลือ 0.25% ต่อปี
  • ให้สามารถใช้ประกันภัยชั้น 3 (ภาคสมัครใจ) ได้ ไม่จำเป็นต้องทำประกันสาธารณะชั้น 1 เพื่อลดค่าใช้จ่าย โดยได้ขอความร่วมมือกับบริษัทลีสซิ่งทุกราย ซึ่ง ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb)) ให้การตอบรับเป็นรายแรก

 

3. ปลดล็อกเอกสาร-ขนาดเครื่องยนต์

 

  • แก้ปัญหาภูมิลำเนาของผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะ โดยใช้เอกสารเฉพาะส่วนบุคคล เช่น บัตรนักเรียน-นักศึกษา เอกสารการทำงานในพื้นที่ กทม. ลดปัญหาการหาผู้รับรอง
  • พิจารณาขยายขนาดเครื่องยนต์รถจักรยานยนต์สาธารณะ จากเดิม 125 ซีซี โดยจะร่วมหารือการปรับปรุงกฎหมาย ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) สภาผู้บริโภค เพื่อกำหนดขนาดซีซีที่เหมาะสมต่อไป คาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 1 เดือน

 

4. พิจารณาแก้กฎหมายให้นำรถเช่ามาให้บริการสาธารณะผ่านแอปฯได้

 

  • กระทรวงดีอีได้หารือร่วมกับกระทรวงคมนาคม เบื้องต้นกระทรวงคมนาคมเห็นชอบในหลักการแก้ไขกฎกระทรวง และอยู่ระหว่างการดำเนินการของกรมการขนส่งทางบก

 

5. มาตรการมอบเงินสนับสนุนพิเศษ

 

  • กระทรวงดีอีเอส ประสานแพลตฟอร์มผู้ให้บริการมอบเงินสนับสนุนช่วยเหลือผู้ขับขี่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยมี Grab และ LINE MAN ให้การตอบรับและพร้อมสนับสนุนเงินพิเศษ ซึ่งผู้ขับขี่จะได้รับเงินสนับสนุนตั้งแต่ 5,000 – 20,000 บาทต่อคน

 

นอกจากนี้ยังมีแนวทางในการเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลแพลตฟอร์มผู้ให้บริการ หากพบผู้ให้บริการรายใดไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือปล่อยปละละเลยให้รถที่ผิดกฎหมายและไม่ได้จดทะเบียนเป็นรถสาธารณะมาให้บริการ กระทรวงดีอีพร้อมดำเนินการทันที

 

“กระทรวงดีอีให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งกลุ่มไรเดอร์ และไดรเวอร์ ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัล โดยเร่งหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยปลดล็อกผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถรับจ้างผ่านแอปฯ ให้สามารถเข้าสู่ระบบได้อย่างถูกต้องและเป็นธรรม ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่จนได้ข้อสรุปที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมในระยะเวลาอันสั้น โดยมีเป้าหมายเพื่อการสนับสนุนผู้ให้บริการภาคดิจิทัลให้ได้รับความเป็นธรรม ถูกต้องตามกฎหมาย การควบคุมดูแลแพลตฟอร์มที่โปร่งใส และดูแลประชาชนผู้ใช้บริการให้ได้รับความมั่นคงปลอดภัยต่อไป” ไชยชนก กล่าว

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising