วันนี้ (20 กุมภาพันธ์) ทีมข่าว THE STANDARD ลงพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อติดตามภารกิจการรับ-ส่งตัวชาวจีนจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ทางการเมียนมารวบรวมมาจากเมืองสแกมเมอร์ต่างๆ เช่น เคเคพาร์กและชเวโก๊กโก่ มาไว้ที่จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา เพื่อส่งต่อให้ทางการจีนโดยผ่านประเทศไทย
เวลา 09.00 น. บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 รถบัสสองชั้นขับเข้ามาในพื้นที่ฝั่งประเทศไทย โดยมีรถตำรวจนำหน้าและปิดท้ายเมื่อมาถึงที่ด่านพรมแดนแม่สอด 2 เจ้าหน้าที่ทหารพร้อมด้วยตำรวจจากฝั่งไทยรับตัวชาวจีนจำนวน 200 คน ซึ่งเป็นชุดแรกจากแผนการส่งตัว 3 วัน คือ วันที่ 20-22 กุมภาพันธ์ รวม 628 คน
เมื่อชาวจีนทั้งหมดลงจากรถบัสจะเข้าไปในอาคารด่านพรมแดนแม่สอด ซึ่งตามรายงานระบุว่า กระบวนการภายในเป็นการตรวจบุคคลเข้าเมืองด้วยระบบ Biometrics ใช้เวลาเฉลี่ยคนละ 2-5 นาที ในส่วนนี้สื่อมวลชนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่ ซึ่งโดยรอบบริเวณดังกล่าวมีทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนูรักษาความเรียบร้อยและความปลอดภัยอย่างแน่นหนา
ส่วนขั้นตอนการคัดกรองเหยื่อกับมิจฉาชีพด้วยการใช้แบบสอบถามและขั้นตอนของกลไกการส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanism: NRM) ที่เดิมทางการไทยจะเป็นผู้ดำเนินการ สำหรับกลุ่มของชาวจีนนับตั้งแต่วันนี้ทางการจีนขอรับไว้ดำเนินการเองตั้งแต่ที่ฝั่งเมียนมาแล้ว ไม่ใช้เจ้าหน้าที่ฝั่งไทย
จากนั้นชาวจีนทั้งหมดเดินทางต่อด้วยรถบัสคันเดิมที่ข้ามมาจากฝั่งเมียนมามุ่งหน้าไปที่ท่าอากาศยานแม่สอด เพื่อโดยสารเครื่องบินพาณิชย์ สายการบิน China Southern ที่ทางการจีนจัดเตรียมไว้บินกลับสู่ประเทศจีนในวันเดียวกัน
เวลา 10.52 น. เครื่องบินจากประเทศจีนเที่ยวบินแรกถึงท่าอากาศยานแม่สอด จากนั้นไม่นานรถบัสจากด่านพรมแดนแม่สอด 2 เข้ามาจอดที่ประตูทางเข้า-ออกด้านข้างของสนามบิน เพื่อให้ชาวจีนเปลี่ยนเป็นรถบัสอีกคัน แล้วขับเข้าไปใกล้รันเวย์ที่จอดเครื่องบิน และขึ้นเครื่องทันทีในเวลา 11.05 น. โดยกระบวนการทั้งหมดมีเจ้าหน้าที่ชาวจีนเป็นผู้ควบคุมตั้งแต่การย้ายรถบัสไปจนถึงการขึ้นเครื่องบิน
