- เปิดตัว Shanghai-London Stock Connect ความร่วมมือระหว่างตลาดหุ้นจีนและสหราชอาณาจักร เพื่อการเข้าถึงแหล่งเงินทุนระหว่างกัน ส่งผลให้บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้สามารถระดมเงินทุนก้อนใหม่ผ่านตลาดหลักทรัพย์ในลอนดอนได้อีกทางหนึ่ง โดยคาดว่าบริษัทจำนวนกว่า 260 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ จะมีคุณสมบัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์สำหรับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน มูลค่ากว่า 300,000 ล้านหยวน อย่างไรก็ตามบริษัทสหราชอาณาจักรอาจระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ของจีนได้อย่างจำกัด เนื่องจากได้รับอนุญาตให้สามารถขายได้เฉพาะหลักทรัพย์ที่มีอยู่เดิมเท่านั้น คาดว่ามีมูลค่ากว่า 250,000 ล้านหยวน
- Deutsche Bank ธนาคารยักษ์ใหญ่จากยุโรป ประกาศเตรียมลดขนาดการลงทุนในสหรัฐฯ เหลือเพียงส่วนงานลูกค้าองค์กร และกลุ่มดูแลลูกค้า High-Net-Worth เท่านั้น เพื่อลดอัตราการขาดทุนจากธุรกิจในต่างประเทศ พร้อมกับพัฒนาระบบซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เพื่อลดค่าใช้จ่าย หลังจากที่พลาดการควบรวมกับ Commerzbank
- จับตาการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) คืนนี้ หลังจากที่นักลงทุนคาดหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 1 ครั้งในปีนี้ อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากยังเชื่อว่าการตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยจะยังไม่เกิดขึ้นในการประชุมครั้งนี้ จากความเชื่อที่ว่า FOMC จะรอผลการพบกันระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ และสีจิ้นผิงในที่ประชุม G20 ระหว่างวันที่ 28-29 มิถุนายนเสียก่อน ประกอบกับความคาดหวังของนักลงทุนในครั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำ แต่ภาคการบริโภคและแรงงานยังขยายตัวได้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วธนาคารกลางมักใช้มาตรการลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่าที่จะเป็นการกระตุ้นเงินเฟ้อ ส่งผลให้มีความขัดแย้งระหว่างความคาดหวังของนักลงทุน และโอกาสความน่าจะเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูง
- ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. เปิดเผยผลกระทบจากภัยแล้ง ผลผลิตข้าวลดลงจากภาวะภัยแล้ง อาจส่งผลให้ราคาข้าวปรับตัวขึ้นเล็กน้อย มันสำปะหลังราคาจะลดลงเล็กน้อย เนื่องจากผลผลิตไม่ได้คุณภาพ เหตุเพราะต้องเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตเพื่อลดภาวะการขาดทุน ส่วนปาล์มน้ำมันมีแนวโน้มราคาลดลงจากผลผลิตที่ยังคงออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สต๊อกน้ำมันปาล์มในประเทศยังมีปริมาณสูงเกินความต้องการใช้ในประเทศ
- จับตาการประกาศดัชนี ZEW Economic Sentiment เยอรมนี ซึ่งเป็นมุมมองต่อเศรษฐกิจของนักลงทุนสถาบัน โดยในครั้งนี้นักวิเคราะห์คาดว่า จะประกาศออกมาอยู่ในแดนลบอีกครั้งที่ระดับ -5.7 สะท้อนความไม่มั่นใจในทางเศรษฐกิจอีกครั้ง จากภาวะการหดตัวในภาคอุตสาหกรรม สืบเนื่องจากสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ขณะที่การใช้จ่ายภาคครัวเรือนยังสามารถช่วยพยุงเศรษฐกิจโดยรวมเอาไว้ได้ อย่างไรก็ตามหากภาคอุตสาหกรรมซึ่งมีผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมมากกว่ายังหดตัวต่อเนื่อง อาจส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงได้
สภาวะตลาดวานนี้
- ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง เตรียมเดินทางเยือนเกาหลีเหนือตามคำเชิญของคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ โดยประเด็นสำคัญในการหารือครั้งนี้จะครอบคลุมถึงสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี หลังจากที่สหรัฐฯ และเกาหลีเหนือคว้าน้ำเหลวในการประชุมซัมมิตที่กรุงฮานอย โดยที่โดนัลด์ ทรัมป์และคิมไม่สามารถตกลงอะไรกันได้
- นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะคงอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ โดย สกอต บราวน์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัท เรย์มอนด์ เจมส์ ให้ความเห็นต่อการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย โดยให้น้ำหนักไปที่ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค และการเจรจาการค้าในการประชุม G20
- ออสเตรเลียประกาศตัวเลขดัชนีราคาบ้านไตรมาส 1 ปี 2019 หดตัวที่ระดับ -3.0% ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ -2.5% ซึ่งถือเป็นการหดตัวต่อเนื่องนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2018
ยุโรป
- STOXX600 ปิดที่ 378.46 ลดลง 0.45 (-0.09%)
- DAX ปิดที่ 12,085.82 ลดลง 10.58 (-0.09%)
- FTSE 100 ปิดที่ 7,357.31 เพิ่มขึ้น 11.53 (+0.16%)
- FTSE MIB ปิดที่ 20,626.42 เพิ่มขึ้น 13.97 (+0.07%)
เอเชีย
- S&P/ASX 200 ปิดที่ 6,530.90 ลดลง 23.1 (-0.35%)
- KOSPI ปิดที่ 2,090.73 ลดลง 4.68 (-0.22%)
- Shanghai ปิดที่ 2,887.62 เพิ่มขึ้น 5.67 (+0.20%)
- Hang Seng ปิดที่ 27,227.16 เพิ่มขึ้น 108.81 (+0.40%)
- BSE Sensex ปิดที่ 38,960.79 ลดลง 491.28 (-1.25%)
- Nikkei ปิดที่ 21,124.00 เพิ่มขึ้น 7.11 (+0.03%)
- SET ปิดที่ 1,667.23 ลดลง 5.10 (-0.30%)
อเมริกา
- DOW30 ปิดที่ 26,112.53 เพิ่มขึ้น 22.92 (+0.09%)
- S&P500 ปิดที่ 2,889.67 เพิ่มขึ้น 2.69 (+0.09%)
- NASDAQ ปิดที่ 7,845.02 เพิ่มขึ้น 48.37 (+0.62%)
Commodities
- ราคาน้ำมัน WTI ปิดที่ 51.87 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 1.07 (-2.02%)
- ราคาน้ำมัน BRENT ปิดที่ 60.94 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 1.29 (-2.07%)
- ราคาทองคำ COMEX ปิดที่ 1,343.25 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.00 (+0.07%)
ติดตามข่าวสารการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่ finno.me/dailyupdate
อ้างอิง: Infoquest, Bloomberg, Investing
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์