- จับตาตัวเลขเศรษฐกิจ โดยวันนี้สหรัฐฯ มีกำหนดประกาศ GDP ประจำไตรมาสที่ 2/63 (เบื้องต้น) ซึ่งคาดว่าจะติดลบถึง 34.1% (QoQ) ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ จากการปิดเมืองในช่วงที่ผ่านมาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานประจำสัปดาห์สหรัฐฯ อาจอยู่ที่ระดับ 1.45 ล้านตำแหน่ง ขยายตัวต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในมลรัฐใหญ่ๆ อย่างแคลิฟอร์เนีย มิชิแกน และฟลอริดาที่ยังน่าวิตก ด้านเยอรมนีมีกำหนดประกาศ GDP ไตรมาสที่ 2/63 (เบื้องต้น) เช่นเดียวกัน ซึ่งคาดว่าจะติดลบ 9.0% (QoQ) หดตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 สืบเนื่องจากวิกฤตโควิด-19 ที่กดดันซัพพลายเชนทั่วโลก
- เมื่อคืนนี้ตามเวลาไทย คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0-0.25% พร้อมทั้งคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเสริมสภาพคล่องไว้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจโดยรวมปรับดีขึ้น ส่วนหนึ่งจากมาตรการความช่วยเหลือ แต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม โดยเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ให้สัมภาษณ์ระบุว่า Fed จะดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป และยังไม่คิดถึงการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น จนกว่าจะเห็นสัญญาณของการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อใกล้ระดับเป้าหมาย พร้อมทั้งย้ำว่ามาตรการที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจมากกว่าในยามนี้คือการคลังและสาธารณสุข Fed นั้นช่วยได้เพียงการรักษาสภาพคล่องของระบบการเงินเท่านั้น
- คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เปิดเผยว่าได้บรรลุข้อตกลงกับบริษัท Gilead Sciences Inc. ซึ่งเป็นผู้ผลิตยาของสหรัฐฯ ในการจองซื้อยา Veklury (ชื่อทางการค้าของ Remdesivir) ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งเป็นยาที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรงจำนวน 30,000 ราย ซึ่งจะเพียงพอสำหรับประเทศในสหภาพยุโรปทั้งหมด รวมไปถึงสหราชอาณาจักร ด้วยมูลค่ากว่า 63 ล้านยูโร อีกทั้งยังระบุว่า EC กำลังเดินหน้าทำข้อตกลงเพิ่มเติมเพื่อจัดซื้อยาล็อตต่อไป
- วานนี้สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐฯ (NAR) เผยรายงานยอดบ้านรอปิดการขายประจำเดือนมิถุนายน ขยายตัว 16.6% (MoM) เป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 15.0% (MoM) จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยต่ำ และการคลายมาตรการปิดเมือง อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์แสดงความวิตกว่า หากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ยังยืดเยื้อต่อไป อาจส่งผลต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้อีกครั้ง
- วานนี้ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่สหรัฐฯ อันประกอบไปด้วย Amazon, Facebook, Alphabet และ Apple ได้ขึ้นให้การกับอนุกรรมการต่อต้านการผูกขาดสหรัฐฯ กว่า 6 ชั่วโมง เกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่ระบุว่าทั้ง 4 บริษัทนั้นทำธุรกิจผูกขาด อย่างไรก็ตามตลาดยังไม่ตอบรับต่อท่าทีดังกล่าว เนื่องจากกระบวนการไต่สวนนั้นยังคงต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน
ภาวะตลาดวานนี้
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นจากการตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0-0.25% บวกกับถ้อยแถลงของทาง Fed ที่จะพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา รวมไปถึงผลประกอบการของบริษัทหลายแห่งออกมาแข็งแกร่ง แสดงถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ได้แย่อย่างที่คาดการณ์ไว้ สวนทางกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลงจากผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 2 ที่ออกมาไม่ค่อยดีนัก สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนเทขายหุ้นที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงออกมา
- สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากการที่สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับตัวลง ซึ่งลดความกังวลที่ปริมาณน้ำมันอาจล้นตลาด ด้านสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมไปถึงการถัวเฉลี่ยความเสี่ยงจากนักลงทุนที่เข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากความกังวลที่เศรษฐกิจอาจฟื้นตัวได้ช้า
สหรัฐฯ
- Dow Jones อยู่ที่ 26539.57 เพิ่มขึ้น 160.29 (0.61%)
- S&P 500 อยู่ที่ 3258.44 เพิ่มขึ้น 40 (1.24%)
- Nasdaq อยู่ที่ 10542.94 เพิ่มขึ้น 140.85 (1.35%)
ยุโรป
- DAX อยู่ที่ 12822.26 ลดลง -13.02 (-0.1%)
- FTSE 100 อยู่ที่ 6131.46 เพิ่มขึ้น 2.2 (0.04%)
- Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3300.16 ลดลง -3.4 (-0.1%)
- FTSE MIB อยู่ที่ 19880.57 ลดลง -22.06 (-0.11%)
เอเชีย
- Nikkei 225 อยู่ที่ 22397.11 ลดลง -260.27 (-1.15%)
- S&P/ASX 200 อยู่ที่ 6006.4 ลดลง -14.1 (-0.23%)
- Shanghai อยู่ที่ 3294.55 เพิ่มขึ้น 66.59 (2.06%)
- SZSE Component อยู่ที่ 13557.44 เพิ่มขึ้น 410.09 (3.12%)
- China A50 อยู่ที่ 15310.84 เพิ่มขึ้น 245.68 (1.63%)
- Hang Seng อยู่ที่ 24883.14 เพิ่มขึ้น 110.38 (0.45%)
- Taiwan Weighted อยู่ที่ 12540.97 ลดลง -45.76 (-0.36%)
- SET อยู่ที่ 1338.35 ลดลง -2.57 (-0.19%)
- KOSPI อยู่ที่ 2263.16 เพิ่มขึ้น 6.17 (0.27%)
- IDX Composite อยู่ที่ 5111.11 ลดลง -1.88 (-0.04%)
- BSE Sensex อยู่ที่ 38071.13 ลดลง -421.82 (-1.1%)
- PSEi Composite อยู่ที่ 5966.27 เพิ่มขึ้น 39.16 (0.66%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 41.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.14 (0.34%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 44.1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.044 (1.01%)
- ราคาทองคำ อยู่ที่ 1966.7 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 10.42 (0.53%)
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- InfoQuest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters