- จับตาตัวเลขเศรษฐกิจ โดยวันนี้สหรัฐฯ มีกำหนดประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนมิถุนายน ซึ่งคาดว่าจะออกมาที่ 91.8 จุด ฟื้นตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 86.6 จุด จากแนวโน้มการผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง ซึ่งส่งผลให้การจ้างงานเริ่มกลับมาขยายตัวอีกครั้ง นอกจากนั้นวันนี้ยังมีกำหนดการขึ้นให้การกับรัฐสภาของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่นักลงทุนยังคงจับตา เพื่อคาดเดาถึงท่าทีของ Fed ต่อไปในอนาคตว่าจะมีทิศทางเช่นไร ขณะที่ยุโรปมีกำหนดประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นตัวแทนของอัตราเงินเฟ้อประจำเดือนมิถุนายน (เบื้องต้น) ซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 0.1%YoY อยู่ในแนวโน้มต่ำอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
- วานนี้สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐฯ (NAR) เปิดเผยยอดบ้านรอปิดการขาย (Pending Home Sales) ประจำเดือนพฤษภาคม ขยายตัวกว่า 44.3%MoM สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 15% และเป็นการขยายตัวมากที่สุดเป็นประวัติการณ์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ และแนวโน้มการผ่อนคลายการปิดเมืองช่วยให้ความมั่นใจฟื้นขึ้น หลังจากที่เดือนก่อนหน้าหดตัว 22% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดเมือง
- Gilead บริษัทผู้คิดค้นและผลิตยา Remdesivir ซึ่งเป็นยาสำหรับรักษาโควิด-19 ประกาศราคาของยาดังกล่าวแยกออกตามผู้ซื้อ โดยจะจำหน่ายให้รัฐบาลที่ 390 ดอลลาร์สหรัฐต่อขวด ขณะที่จำหน่ายให้โรงพยาบาลและบริษัทประกันสุขภาพเอกชนที่ขวดละ 520 ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม การรักษาต่อรอบนั้นจำเป็นจะต้องใช้ยาประมาณ 6 ขวด ส่งผลให้ต้นทุนการใช้ยาของทั้งสองส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 2,340 และ 3,120 ดอลลาร์ต่อการรักษา 1 ครั้ง แม้ยาดังกล่าวจะยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าประสิทธิผลไม่สูงนักก็ตาม ด้านนักวิเคราะห์ระบุว่าราคายาดังกล่าวถือว่าต่ำกว่าการคาดการณ์เดิมที่ประเมินไว้ที่ระดับ 5,000 ดอลลาร์ต่อการรักษา 1 ครั้ง เนื่องจากท้ายที่สุดในปัจจุบัน Remdesivir ยังเป็นยาเพียงชนิดเดียวที่ช่วยรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรงให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
- เดโมแครตเดินหน้าเรียกคะแนนเสียง เสนอ 3 ญัตติใหญ่เข้าสภา สำนักข่าว Reuters เผยว่า ส.ส. จากพรรคเดโมแครตของสหรัฐฯ เตรียมเดินหน้าผลักดัน 3 ญัตติเข้าสู่การพิจารณาในรัฐสภา อันประกอบไปด้วย ด้านเฮลท์แคร์ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ Obamacare ในอดีต, ด้านการช่วยเหลือตลาดที่อยู่อาศัย จำนวนเงินกว่า 1 แสนล้าน เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ประสบปัญหาด้านค่าเช่าจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสร้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะต่อไป
- รัฐบาลอินเดียประกาศแบนแอปพลิเคชันที่มาจากจีนทั้งหมด 59 แอปฯ ซึ่งมี TikTok แอปฯ ชื่อดังที่มียอดดาวน์โหลดกว่า 2,000 ล้านครั้งอยู่ในรายชื่อดังกล่าวด้วย โดยให้เหตุผลว่า 59 แอปฯ นี้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เป็นอันตรายต่ออธิปไตยของอินเดีย และอาจคุกคามความปลอดภัยของรัฐและความสงบเรียบร้อยของประชาชน ความเคลื่อนไหวกล่าวมีขึ้นหลังจากเกิดความตึงเครียดที่ชายแดนระหว่างจีนและอินเดียในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า ทำให้นักวิเคราะห์คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนการตอบโต้ของอินเดียดังกล่าว
ภาวะตลาดวานนี้
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แสดงถึงแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไปในทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อหุ้นที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้งหลังถูกเทขายในวันศุกร์ที่ผ่านมา
- สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากความคาดหวังที่เศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวในเร็วๆ นี้ จากตัวเลขเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐฯ และยุโรปที่ออกมามีทิศทางที่ดีขึ้น แสดงถึงปริมาณความต้องการใช้น้ำมันจะกลับมาเพิ่มเช่นกัน ด้านสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากปัจจัยจำนวนผู้ติดโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาดีก็ตาม ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อถัวเฉลี่ยจากความเสี่ยงดังกล่าว
สหรัฐฯ
- Dow Jones อยู่ที่ 25,595.8 เพิ่มขึ้น 580.25 (+2.32%)
- S&P 500 อยู่ที่ 3,053.24 เพิ่มขึ้น 44.19 (+1.47%)
- Nasdaq อยู่ที่ 9,874.15 เพิ่มขึ้น 116.93 (+1.2%)
ยุโรป
- DAX อยู่ที่ 12,232.12 เพิ่มขึ้น 142.73 (+1.18%)
- FTSE 100 อยู่ที่ 6,226.4 เพิ่มขึ้น 62.54 (+1.01%)
- Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3,232.02 เพิ่มขึ้น 27.85 (+0.87%)
- FTSE MIB อยู่ที่ 19,447.02 เพิ่มขึ้น 322.66 (+1.69%)
เอเชีย
- Nikkei 225 อยู่ที่ 21,995.04 ลดลง 517.04 (-2.3%)
- S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5,815 ลดลง 89.1 (-1.51%)
- Shanghai อยู่ที่ 2,961.52 ลดลง 18.03 (-0.61%)
- SZSE Component อยู่ที่ 11,752.36 ลดลง 61.17 (-0.52%)
- China A50 อยู่ที่ 13,853.63 ลดลง 85 (-0.61%)
- Hang Seng อยู่ที่ 24,301.28 ลดลง 248.71 (-1.01%)
- Taiwan Weighted อยู่ที่ 11,542.62 ลดลง 118.05 (-1.01%)
- SET อยู่ที่ 1,329.76 ลดลง 0.58 (-0.04%)
- KOSPI อยู่ที่ 2,093.48 ลดลง 41.17 (-1.93%)
- IDX Composite อยู่ที่ 4,901.82 ลดลง 2.27 (-0.05%)
- BSE Sensex อยู่ที่ 34,961.52 ลดลง 209.75 (-0.6%)
- PSEi Composite อยู่ที่ 6,105.18 ลดลง 86.66 (-1.4%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 39.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.06 (+2.75%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์อยู่ที่ 41.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.85 (+2.07%)
- ราคาทองคำ อยู่ที่ 1773.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.58 (+0.09%)
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters