- จับตาตัวเลขเศรษฐกิจ โดยวันนี้สหรัฐฯ มีกำหนดประกาศตัวเลขยอดบ้านรอปิดการขายประจำเดือนมิถุนายน ซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 15.0%MoM ซึ่งลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 44.3%MoM แต่ยังคงอยู่ในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับอดีตที่ผ่านมาจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยต่ำ
- วานนี้รัฐบาลจีนประกาศระงับสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างฮ่องกงกับออสเตรเลีย แคนาดา และอังกฤษ หลัง 3 ประเทศดังกล่าวระงับสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับฮ่องกงไปก่อนหน้านี้ ภายใต้ข้ออ้างที่ว่ากฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ของฮ่องกงนั้นละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งทางการจีนตอบโต้ว่าการดำเนินการดังกล่าวของ 3 ชาติเป็นการกระทำที่ผิด ซึ่งทำลายความร่วมมือด้านความยุติธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง โดยในวันเดียวกันนั้นนิวซีแลนด์ก็เป็นอีกชาติหนึ่งที่ออกมาประกาศระงับสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับฮ่องกงภายใต้ความกังวลด้านสิทธิมนุษยชนเช่นเดียวกัน
- รัฐบาลอินเดียประกาศแบนแอปพลิเคชันของจีนเพิ่มอีก 47 แอปฯ อันประกอบไปด้วย TikTok Lite, Bigo Lite เป็นต้น หลังความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศเริ่มต้นขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมา และมีทหารเสียชีวิตในการปะทะกันที่บริเวณชายแดน ซึ่งส่งผลให้มีการแบนแอปพลิเคชันไปแล้ว 59 แอปฯ
- CNN รายงานว่าบริษัท Moderna ร่วมมือกับสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ (NIH) เปิดตัวโครงการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 ในมนุษย์ครั้งใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยจำนวนอาสาสมัครทดลองถึง 30,000 คน โดยการทดลองดังกล่าวจะเป็นการทดลองในระบบปิด ซึ่งมีทั้งผู้ติดเชื้อที่ได้รับยาจริงและยาหลอก ก่อนที่จะติดตามว่ามีอาการติดเชื้อมากกว่าเดิมหรือไม่ ซึ่งการทดลองที่รวดเร็วในหลากหลายบริษัทนั้นเป็นผลมาจากการที่สำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ได้ผ่อนคลายกฎระเบียบแก่บางบริษัทเพื่อสนับสนุนการพัฒนาวัคซีน
- วานนี้สหรัฐฯ ประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนกรกฎาคมออกมาที่ 92.6 จุด หดตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 98.3 จุด และแย่กว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 94.5 จุด จากแนวโน้มการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในหลายมลรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมิชิแกน ฟลอริดา เท็กซัส และแคลิฟอร์เนีย ซึ่งยังคงมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ในอัตราที่ชะลอลงก็ตาม
ภาวะตลาดวานนี้
- นักลงทุนยังคงจับตาดูท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่มีกำหนดการประชุมเพื่อกำหนดนโยบายการเงินในช่วง 2 วันนี้ ประกอบกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาแย่กว่าการคาดการณ์ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปเคลื่อนไหวในกรอบแคบก่อนปิดลบ สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นเอเชีย ยกเว้นประเทศจีนที่ปรับตัวขึ้น หลังสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เผยว่ากำไรอุตสาหกรรมจีนขยายตัวดีกว่าคาด
- ขณะที่สินค้าโภคภัณฑ์ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบพร้อมปริมาณการซื้อขายที่ชะลอตัว จากการจับตาดูท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ
สหรัฐฯ
- Dow Jones อยู่ที่ 26,379.28 ลดลง 205.49 (-0.77%)
- S&P 500 อยู่ที่ 3,218.44 ลดลง 20.97 (-0.65%)
- Nasdaq อยู่ที่ 10,402.09 ลดลง 134.18 (-1.27%)
ยุโรป
- DAX อยู่ที่ 12,835.28 ลดลง 3.38 (-0.03%)
- FTSE 100 อยู่ที่ 6,129.26 เพิ่มขึ้น 24.38 (+0.4%)
- Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3,303.56 เพิ่มขึ้น 0.72 (+0.02%)
- FTSE MIB อยู่ที่ 19,902.63 ลดลง 117.33 (-0.59%)
เอเชีย
- Nikkei 225 อยู่ที่ 22,657.38 ลดลง 58.47 (-0.26%)
- S&P/ASX 200 อยู่ที่ 6,020.5 ลดลง 23.7 (-0.39%)
- Shanghai อยู่ที่ 3,227.96 เพิ่มขึ้น 22.73 (+0.71%)
- SZSE Component อยู่ที่ 13,147.35 เพิ่มขึ้น 170.49 (+1.31%)
- China A50 อยู่ที่ 15,065.16 เพิ่มขึ้น 176.9 (+1.19%)
- Hang Seng อยู่ที่ 24,772.76 เพิ่มขึ้น 169.5 (+0.69%)
- Taiwan Weighted อยู่ที่ 12,586.73 ลดลง 1.57 (-0.01%)
- SET *ปิดทำการ*
- KOSPI อยู่ที่ 2,256.99 เพิ่มขึ้น 39.13 (+1.76%)
- IDX Composite อยู่ที่ 5,112.99 ลดลง 3.68 (-0.07%)
- BSE Sensex อยู่ที่ 38,492.95 เพิ่มขึ้น 558.22 (+1.47%)
- PSEi Composite อยู่ที่ 5,927.11 ลดลง 76.15 (-1.27%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 41.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 0.47 (-1.3%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 43.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.25 (+0.58%)
- ราคาทองคำ อยู่ที่ 1,956.28 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 13.86 (+0.71%)
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters