วุฒิสภาสหรัฐฯ รับรองผู้พิพากษาศาลสูงคนใหม่ก่อนวันเลือกตั้ง, หัวหน้าคณะเจรจา Brexit ยังเชื่อมั่นบรรลุข้อตกลงได้: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (27 ต.ค. 2563)

จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ โดยวันนี้สหรัฐฯ มีกำหนดประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนตุลาคม ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 102 จุด ฟื้นตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 101.8 จุด สะท้อนความเชื่อมั่นที่ฟื้นขึ้นกว่าช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม การสำรวจดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงก่อนหน้าที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่สามขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

วานนี้ AstraZeneca หนึ่งในบริษัทผู้พัฒนาวัคซีนโควิด-19 ร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ออกแถลงการณ์ระบุว่าวัคซีน AZD1222 ที่กำลังดำเนินการทดลองอยู่นั้นมีผลข้างเคียงไม่มากนักในกลุ่มผู้สูงอายุ ขณะที่ผลโดยรวมของวัคซีนดังกล่าวนั้นสามารถกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันได้ทั้งในกลุ่มผู้สูงอายุและหนุ่มสาว โดยก่อนหน้านี้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีนต้านโควิด-19 ในช่วงก่อนหน้า ส่งผลให้ 3 บริษัทผู้พัฒนาวัคซีนตัดสินใจระงับการพัฒนาชั่วคราวเพื่อตรวจสอบโดยละเอียด ซึ่ง AstraZeneca เป็นหนึ่งในนั้น และหยุดการทดลองชั่วคราวในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา

วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติ 52 ต่อ 48 เสียง รับรอง เอมี โคนีย์ บาร์เรตต์ ดำรงตำแหน่งหนึ่งในคณะผู้พิพากษาศาลสูงคนใหม่แทน รูธ เบเดอร์ กินสเบิร์ก ที่เสียชีวิตเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ส่งผลให้จำนวนตุลาการศาลสูงสหรัฐฯ ประกอบด้วยผู้พิพากษาแนวคิดอนุรักษนิยม 6 คนต่อผู้พิพากษาแนวเสรีนิยม 3 คน

มิเชล บาร์นิเยร์ หัวหน้าผู้แทนการเจรจาการค้าฝ่ายสหภาพยุโรป (EU) เดินทางถึงกรุงลอนดอนเพื่อเริ่มต้นเจรจาข้อตกลงหลังแยกตัวจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (Brexit) ซึ่งระยะเวลาเปลี่ยนผ่านของ Brexit มีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ บาร์นิเยร์ให้สัมภาษณ์ว่าการบรรลุข้อตกลงการค้ายังมีความเป็นไปได้ สวนทางแถลงการณ์ก่อนหน้าของ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่ระบุว่าจะไม่เจรจาอีกต่อไปหากสหภาพยุโรปไม่เปลี่ยนท่าที และพร้อมที่จะแยกตัวโดยปราศจากข้อตกลง ซึ่งสร้างความกังวลต่อความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างทั้งสองฝ่าย

ช่วงเช้าที่ผ่านมา ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/20 โต 1.9%QoQ ขยายตัวมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2010 และสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 1.7%QoQ จากการถดถอยของเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสก่อนหน้า สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการส่งออกรถยนต์ที่ขยายตัวกว่า 15.6%QoQ ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนด้านการก่อสร้างหดตัว 0.1%QoQ และ 7.8%QoQ ตามลำดับ

ภาวะตลาดวานนี้

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงแม้ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 3 จะออกมาแข็งแกร่งก็ตาม แต่ตลาดได้แรงกดดันจากมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ที่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ ซึ่งอาจส่งผลให้เศรษฐกิจในสหรัฐฯ ฟื้นตัวได้ช้า สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลงเช่นกันจากความกังวลที่เศรษฐกิจในยุโรปอาจฟื้นตัวได้ช้าจากมาตรการล็อกดาวน์ที่ออกมาก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 3 ยังพอช่วยหนุนตลาดได้บ้าง

สัญญาน้ำมันปรับตัวลงจากตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่ลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ รวมทั้งยังไม่มีความเคลื่อนไหวของกลุ่ม OPEC+ ที่จะลดกำลังการผลิตอีก ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะน้ำมันล้นตลาดได้ ด้านสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งความไม่แน่นอนของมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ที่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงดังกล่าว

สหรัฐฯ