ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทะยาน รับปัจจัยบวกรัฐสภาใกล้ผ่านงบอัดฉีด 2 ล้านล้านดอลลาร์, WHO เตือนสหรัฐฯ อาจกลายเป็นศูนย์กลางระบาดของโควิด-19 แห่งใหม่: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (25 มี.ค. 2563)

– Dow Jones ทะยาน 2,112.98 จุด หรือ 11.37% หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ออกมาตรการใหม่ Unlimited QE บวกกับสมาชิกระดับอาวุโสของเดโมแครตและรีพับลิกันเผยว่า พวกเขาใกล้บรรลุข้อตกลงในร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตอบรับในเชิงบวกทันที โดย Dow 30 พุ่งขึ้น 2,112.98 จุด (11.37%), S&P 500 เพิ่มขึ้น 209.93 จุด (9.38%) และ Nasdaq เพิ่มขึ้น 557.18 จุด (8.12%) ด้านประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความกดดันให้รัฐสภาอนุมัติมาตรการดังกล่าวภายในวันนี้ เพราะหากยิ่งลากเวลาออกไปนานเท่าใด ก็ยิ่งยากที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง และภาคแรงงานจะได้รับผลกระทบ

– องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนสหรัฐฯ เสี่ยงเป็นศูนย์กลางการระบาดของโควิด-19 แห่งใหม่ แทนจีนและอิตาลี โดย WHO กำลังจับตาตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในสหรัฐฯ จากยอดติดเชื้อหลักพันเมื่อสัปดาห์ก่อน พุ่งเป็นหลักหมื่นในสัปดาห์นี้ จึงมีความเป็นไปได้สูงที่สหรัฐฯ จะกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดของโควิด-19 ในไม่ช้า จากข้อมูลวันอังคารพบว่า 85% ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มาจากสหรัฐฯ และยุโรปเป็นหลัก และ 40% ของผู้ติดเชื้อรายใหม่มาจากสหรัฐฯ เพียงประเทศเดียว

– ญี่ปุ่นประกาศเลื่อนโอลิมปิกไปปีหน้า ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) เห็นพ้องกันว่า ควรมีการเลื่อนการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกจากกำหนดการเดิมระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม ถึง 9 สิงหาคมในปีนี้ ซึ่งญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มหกรรมกีฬาของมนุษยชาติต้องเลื่อนการแข่งขัน หลังหลายชาติออกมากดดันและขู่ที่จะถอนตัว หากญี่ปุ่นยังเดินหน้าจัดการแข่งขันต่อในปีนี้

– ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ประกาศใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 1 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม ด้านตลาดหุ้นไทยตอบรับในเชิงลบ หลังจากที่มีการประกาศ โดยดัชนี SET ปรับตัวลงจาก 1,048 จุด ณ เวลา 15.00 น. ปิดตลาดที่ระดับ 1,033.84 จุดสวนทางตลาดในภูมิภาค

– ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ 1. แบงก์ชาติไทยประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ตลาด คาดปรับลดอีก 0.25% สู่ระดับ 0.50% หลังจากเพิ่งประกาศลดดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 0.75% เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2. อังกฤษประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ (YoY) เดือนกุมภาพันธ์ คาดขยายตัวเหลือ 1.7% จากเดือนก่อนหน้าที่ประกาศขยายตัว 1.8% 3. สหรัฐฯ ประกาศตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทนขั้นพื้นฐาน (Core Durable Goods Orders) ประจำเดือนกุมภาพันธ์ คาดหดตัว -0.4% และสินค้าคงทนทั่วไป (Durable Goods Orders) คาดหดตัว -0.8%

สรุปภาพรวมตลาดวานนี้

– ดัชนี Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวพุ่งขึ้นแรงขานรับมาตรการเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจในสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในวงเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งใกล้จะบรรลุข้อตกลงแล้ว สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้นแรงเช่นกันจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะช่วยพยุงเศรษฐกิจให้กลับมาฟื้นฟูอีกครั้ง

– ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากการคาดหวังที่เศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวจากมาตรการต่างๆ ส่งผลให้เริ่มมีปริมาณความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้น ด้านราคาทองคำปรับตัวพุ่งแรงกว่า 90 ดอลลาร์ ทำสถิติปรับตัวสูงสุดในรอบ 11 ปี จากเม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่กอง ETF ทองคำ เพื่อถัวเฉลี่ยความเสี่ยงของนักลงทุน

สหรัฐฯ