- จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ 1. ตัวเลขการขออนุญาตสร้างบ้านใหม่สหรัฐฯ ประจำเดือนพฤศจิกายน ถูกคาดการณ์ว่าจะประกาศออกมาที่ 1.41 ล้านหลัง ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 1.46 ล้านหลัง แต่ยังคงขยายตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงจุดสูงสุดนับตั้งแต่หลังวิกฤตซับไพรม์อย่างต่อเนื่อง 2. ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่สหรัฐฯ ยังคงถูกคาดการณ์ว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องที่ระดับ 7.018 ล้านตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับใกล้เคียงจุดสูงสุดหลังวิกฤตซับไพรม์เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ยังคงจับตามองต่อไป เนื่องจากตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ 6 เดือนต่อเนื่อง
- วานนี้ ลาร์รี คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ย้ำถึงการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ว่าได้บรรลุข้อตกลงเป็นที่เรียบร้อยอย่างแน่นอน ซึ่งจะส่งผลให้ทางการจีนต้องนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า พร้อมทั้งหวังว่าการลงนามอย่างเป็นทางการจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ ขณะที่การเจรจาเฟส 2 กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ และเป็นการต่อยอดจากข้อตกลงเฟส 1 อย่างแน่นอน
- จีนเตือนเยอรมนี อย่าคิดแบน Huawei วานนี้หนังสือพิมพ์ South China Morning Post รายงานว่าทูตจีนประจำกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ได้กล่าวว่าเยอรมนีอาจต้องรับผลที่ตามมา หากมีการกีดกันการค้าต่อบริษัท Huawei พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของจีนต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของเยอรมนี ด้วยการระบุว่ากว่า 1 ใน 4 ของยอดการซื้อขายรถยนต์ 28 ล้านคันของจีนนั้นเป็นรถยนต์ที่ผลิตในเยอรมนี หลังจากที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของเยอรมนีกำลังพิจารณาผลักดันร่างกฎหมายที่จะห้ามไม่ให้บริษัทที่ ‘ไม่น่าไว้ใจ’ พัฒนาเทคโนโลยี 5G โดยที่ไม่ได้ระบุชื่อบริษัท Huawei แต่อย่างใด
.
- ญี่ปุ่นหวัง สงครามการค้าสงบช่วยผลักดันเศรษฐกิจญี่ปุ่น เช้าวันนี้ ยาซุโตชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์สื่อว่าภาคการส่งออกและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น หลังจากทางการสหรัฐฯ และจีนสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าเฟสแรกได้สำเร็จ ซึ่งจะช่วยให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่อยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วงมีแนวโน้มฟื้นตัวตามภาวะการคลายความกังวลทั่วโลก
- Boeing เตรียมลดกำลังการผลิตเครื่องบินโดยสารตระกูล 737 MAX สืบเนื่องจากเหตุการณ์เครื่องบินประสบอุบัติเหตุตก 2 ลำในช่วงต้นปีที่แล้ว ซึ่งมีผู้เสียชีวิตรวมกัน 346 คน ส่งผลให้เครื่องบินรุ่นดังกล่าวถูกระงับห้ามขึ้นบินโดยสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐ (FFA) นับตั้งแต่นั้นมา ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา FFA ออกแถลงการณ์อีกครั้งว่าไม่อาจอนุมัติให้สายการบินนำเครื่องบินรุ่นดังกล่าวขึ้นบินได้อีกครั้งในปีนี้อย่างแน่นอน ซึ่งนานกว่าการคาดการณ์ของบริษัท Boeing ท่าทีดังกล่าวส่งผลให้ Boeing ตัดสินใจลดกำลังการผลิตเครื่องบินรุ่นดังกล่าวลงเพื่อลดต้นทุนการผลิตและความไม่แน่นอน ส่งผลให้หุ้น Boeing ปรับตัวลงกว่า 4.29% เมื่อคืนนี้
สรุปภาพรวมตลาดวานนี้
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้งดัชนี Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq ทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งจากความแข็งแกร่งของตัวเลขทางเศรษฐกิจ ล่าสุดดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 52.2 ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนที่ผ่านมา และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นกลับมาคึกคักอีกครั้ง สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน หลังจากนักลงทุนเริ่มคลายกังวลจาก Brexit รวมไปถึงความคาดหวังการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของฝั่งยุโรปที่มีแรงหนุนจากการสงบศึกสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน
- ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ รวมไปถึงจีนออกมาดีกว่าคาด แสดงถึงอุปสงค์น้ำมันที่ยังแข็งแกร่ง ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลสภาวะน้ำมันล้นตลาด ด้านราคาทองคำปรับตัวลงเล็กน้อยจากการที่นักลงทุนเริ่มเทขายสินทรัพย์ปลอดภัยบางส่วนไปยังตลาดหุ้นที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง
สหรัฐฯ
- Dow 30 ปิดที่ 28235.89 เพิ่มขึ้น 100.51 (+0.36%)
- S&P 500 ปิดที่ 3191.45 เพิ่มขึ้น 22.65 (+0.71%)
- Nasdaq ปิดที่ 8814.23 เพิ่มขึ้น 79.35 (+0.91%)
ยุโรป
- DAX ปิดที่ 13407.66 เพิ่มขึ้น 124.94 (+0.94%)
- FTSE 100 ปิดที่ 7519.05 เพิ่มขึ้น 165.61 (+2.25%)
- Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3772.74 เพิ่มขึ้น 41.67 (+1.12%)
- FTSE MIB ปิดที่ 23524.76 เพิ่มขึ้น 195.43 (+0.84%)
เอเชีย
- Nikkei 225 ปิดที่ 23952.35 ลดลง 70.75 (-0.29%)
- S&P/ASX 200 ปิดที่ 6849.7 เพิ่มขึ้น 110 (+1.63%)
- Shanghai ปิดที่ 2984.39 เพิ่มขึ้น 16.72 (+0.56%)
- SZSE Component ปิดที่ 10158.24 เพิ่มขึ้น 153.62 (+1.53%)
- China A50 ปิดที่ 14058.39 ลดลง 35.19 (-0.25%)
- Hang Seng ปิดที่ 27508.09 ลดลง 179.67 (-0.65%)
- Taiwan Weighted ปิดที่ 11939.77 เพิ่มขึ้น 12.04 (+0.1%)
- SET ปิดที่ 1549.74 ลดลง 24.17 (-1.54%)
- KOSPI ปิดที่ 2168.15 ลดลง 2.1 (-0.1%)
- IDX Composite ปิดที่ 6211.59 เพิ่มขึ้น 14.27 (+0.23%)
- BSE Sensex ปิดที่ 40938.72 ลดลง 70.99 (-0.17%)
- PSEi Composite ปิดที่ 7701.6 ลดลง 176.03 (-2.23%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 60.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.13 (+0.22%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 65.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.2 (+0.31%)
- ราคาทองคำ ปิดที่ 1479.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง 1.45 (-0.1%)
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters