– จับตาตัวเลขเศรษฐกิจ โดยวันนี้สหรัฐฯ มีกำหนดประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 1.375 ล้านตำแหน่ง ลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 14 หลังจากการผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 สะท้อนการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ขณะที่จีนมีกำหนดประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 2.5% (YoY) ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้หวัดหมูคลี่คลายลง สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งคาดการณ์ว่าจะประกาศออกมาที่ -3.2% (YoY) หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 เช่นเดียวกัน
– วานนี้รัฐบาลจีนทำพิธีเปิดสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมและติดตามการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของรัฐบาลฮ่องกง หลังจากที่ประกาศบังคับใช้กฎหมายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
– ทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน (UCL) เปิดเผยรายงานระบุว่า การติดโควิด-19 นั้นส่งผลต่อระบบประสาท ตั้งแต่การทำให้สมองทำงานผิดปกติชั่วคราว ภาวะหลอดเลือดเลี้ยงสมองแตกหรืออุดตัน, ระบบประสาทบางส่วนเสียหาย ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนเกี่ยวกับระบบประสาทได้หลากหลาย เช่น สมองอักเสบ เกิดอาการโรคจิต และเพ้อคลั่ง เป็นต้น โดยการศึกษาดังกล่าวเกิดขึ้นจากการวิจัยผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 43 ราย ซึ่งบ่งชี้ว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีความน่าวิตกอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะทำลายระบบทางเดินหายใจและปอดแล้ว ยังส่งผลเสียต่อระบบประสาทอีกด้วย
– วันนี้ทางการญี่ปุ่นประกาศยอดคำสั่งซื้อสินค้าประเภทเครื่องจักรของญี่ปุ่น ขยายตัว 1.7% (MOM) เหนือกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ -5.4% (MOM) อย่างไรก็ตาม ทาเคชิ มินามิ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันวิจัย Norinchukin กล่าวว่า ยอดคำสั่งซื้อนั้นไม่เกิดจากการสั่งซื้อเครื่องจักรอุตสาหกรรมรถยนต์ที่เป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศ แต่เป็นยอดคำสั่งซื้อฝั่งด้านบริการ ซึ่งตัวเลขนี้ไม่ได้บ่งบอกถึงแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่พึ่งพาการส่งออกอยู่ ส่งผลให้การขยายตัวยังมีความไม่แน่นอนอยู่
– สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การผลิตก๊าซธรรมชาติเพื่อการส่งออกในสหรัฐฯ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากค่าเฉลี่ย 20 เดือน ที่ประมาณ 4.1 พันลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ลงมาถึง 3.1 พันลูกบาศก์ฟุตต่อวันในเดือนมิถุนายน สืบเนื่องจากการปิดประเทศ แม้ว่าความสามารถในการผลิตก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามา แต่อย่างไรก็ตาม อัตราการผลิตลดลงจาก 80-90% ในปี 2019 เหลือ 32% ในเดือนนี้ เนื่องจากผู้ซื้อรายใหญ่ยกเลิกคำสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก
ภาวะตลาดวานนี้
– ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นจากความคาดหวังที่ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 2 จะออกมาแข็งแกร่ง จากตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ที่ประกาศออกมาค่อนข้างดีในช่วงก่อนหน้านี้ สวนทางกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลงจากปัจจัยจำนวนผู้ติดโควิด-19 ที่ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หวั่นเศรษฐกิจอาจชะลอตัวไปอีกระยะ
– สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น แม้ว่าสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ จะออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก็ตาม แต่ได้รับแรงหนุนจากสต๊อกน้ำมันเบนซินที่ลดลง บ่งชี้ว่า ในสหรัฐฯ เริ่มมีความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น ด้านสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมไปถึงปัจจัยจำนวนผู้ติดโควิด-19 ที่ยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง สร้างความกังวลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
สหรัฐฯ
– Dow Jones อยู่ที่ 26067.28 เพิ่มขึ้น 177.1 (0.68%)
– S&P 500 อยู่ที่ 3169.94 เพิ่มขึ้น 24.62 (0.78%)
– Nasdaq อยู่ที่ 10492.5 เพิ่มขึ้น 148.61 (1.44%)
ยุโรป
– DAX อยู่ที่ 12494.81 ลดลง -121.99 (-0.97%)
– FTSE 100 อยู่ที่ 6156.16 ลดลง -33.74 (-0.55%)
– Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3286.09 ลดลง -35.47 (-1.07%)
– FTSE MIB อยู่ที่ 19899.53 ลดลง -113.15 (-0.57%)
เอเชีย
– Nikkei 225 อยู่ที่ 22438.65 ลดลง -176.04 (-0.78%)
– S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5920.3 ลดลง -92.6 (-1.54%)
– Shanghai อยู่ที่ 3403.44 เพิ่มขึ้น 58.1 (1.74%)
– SZSE Component อยู่ที่ 13406.37 เพิ่มขึ้น 242.39 (1.84%)
– China A50 อยู่ที่ 16167.47 เพิ่มขึ้น 156.28 (0.98%)
– Hang Seng อยู่ที่ 26129.18 เพิ่มขึ้น 153.52 (0.59%)
– Taiwan Weighted อยู่ที่ 12170.19 เพิ่มขึ้น 77.22 (0.64%)
– SET อยู่ที่ 1362.46 ลดลง -10.76 (-0.78%)
– KOSPI อยู่ที่ 2158.88 ลดลง -5.29 (-0.24%)
– IDX Composite อยู่ที่ 5076.17 เพิ่มขึ้น 89.09 (1.79%)
– BSE Sensex อยู่ที่ 36329.01 ลดลง -345.51 (-0.94%)
– PSEi Composite อยู่ที่ 6285.5 เพิ่มขึ้น 18.1 (0.29%)
Commodity
– ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 40.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.5 (1.24%)
– ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 43.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.34 (0.79%)
– ราคาทองคำ อยู่ที่ 1809.24 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 14.27 (0.79%)
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters