น้ำมันร่วงแรงหลังดีลลดกำลังการผลิตของ OPEC และรัสเซียล่ม, จีนส่งออกหดตัว 17.2% ผลกระทบโควิด-19: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (9 มี.ค. 2563)

ตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐฯ ดีกว่าคาด ท่ามกลางความกังวลเรื่องเชื้อไวรัสโคโรนา สหรัฐฯ ประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm Payrolls) เดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 273,000 ตำแหน่ง สอดคล้องกับตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemploymen Rate) ซึ่งอยู่ที่ 3.5% ดีกว่าคาดการณ์ที่ 3.6% ส่วนอัตราค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมง (Average Hourly Earnings) เพิ่มขึ้น 3.0% (YoY) เป็นไปตามคาดการณ์

ตัวเลขเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียยังส่งสัญญาณชะลอตัว ทางการจีนเปิดเผยตัวเลขการส่งออก (Exports) เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ออกมาหดตัว 17.2% (YoY) ส่วนตัวเลขนำเข้า (Imports) หดตัวเช่นเดียวกันที่ 4.0% (YoY) เป็นผลให้ดุลการค้า (Trade Balance) ติดลบที่ 7,090 ล้านดอลลาร์ ส่วนญี่ปุ่นมีการเปิดเผยตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 4 ออกมาที่ -7.1% (YoY) และ -1.8% (QoQ)

ราคาน้ำมันดิบร่วงหนัก หลังดีลลดกำลังการผลิต OPEC-รัสเซีย ล่ม เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเมษายน ร่วงลง 4.62 ดอลลาร์ หรือ 10.07% ปิดที่ 41.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพฤษภาคมร่วงลง 4.72 ดอลลาร์ หรือ 9.44% ปิดที่ 45.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังการประชุมนโยบายด้านการผลิตน้ำมันระหว่าง OPEC และพันธมิตรที่นำโดยรัสเซีย ได้เสร็จสิ้นลง โดยที่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิตได้

อัปเดตตลาดการเงินเช้านี้ ราคาทองคำพุ่ง น้ำมันดิ่ง บอนด์ยีลด์ลง หลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ประสบความล้มเหลวในการขยายข้อตกลงกับรัสเซีย ซึ่งจะหมดอายุในเดือนมีนาคมนี้ ล่าสุดทางการซาอุฯ ได้มีการบอกให้ผู้ผลิตน้ำมันสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้มากกว่าเดิม เพิ่มความกังวลให้ตลาดการเงินที่เดิมมีความวิตกเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงทันที 25.53% มาที่ระดับ 30.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาทองปรับตัวขึ้นทะลุระดับ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ไปเรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลงมาที่ 0.49%

รัฐบาลอิตาลีปิดเมืองทางเหนือ ยับยั้งไวรัสระบาด นายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนเต ได้ลงนามในคำสั่งพิเศษของฝ่ายบริหาร ให้แคว้นลอมบาร์เดียทั้งหมดซึ่งมีเมืองเอกคือเมืองมิลาน และอีก 14 จังหวัดในแคว้นเวเนโต ซึ่งมีเมืองเวนิสเป็นเมืองเอก และแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา ซึ่งมีเมืองปาร์มาเป็นเมืองเอก อยู่ภายใต้มาตรการควบคุมโรคเป็นกรณีพิเศษจนถึงวันที่ 3 เมษายนนี้เป็นอย่างน้อย มาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อประชากรราว 16 ล้านคน หรือประมาณ 1 ใน 4 ของทั้งประเทศ ซึ่งจะเคลื่อนไหวในพื้นที่ได้อย่างจำกัด และไม่สามารถเดินทางออกจากภูมิภาคดังกล่าวได้ ‘ยกเว้นกรณีฉุกเฉินและจำเป็น’ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะพิจารณาเป็นรายกรณี

สรุปภาพรวมตลาดเมื่อวันศุกร์

แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แต่ดัชนี Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq ยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องจากผลกระทบของโควิด-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลงเช่นกัน นำโดยหุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซดิ่งลงมากกว่า 5% จากภาวะอุปทานน้ำมันที่เริ่มล้นตลาด

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงกว่า 10% หลังกลุ่ม OPEC และรัสเซียไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการลดกำลังการผลิตได้ ส่งผลให้อุปทานน้ำมันเริ่มล้นตลาด ด้านราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากการที่นักลงทุนแห่ซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยจากความกังวลที่เศรษฐจะชะลอตัว และแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐด้วย

สหรัฐฯ