– จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ โดยวันนี้สหรัฐฯ มีกำหนดประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนเมษายน ซึ่งคาดว่าจะหดตัว 22 ล้านตำแหน่ง ซึ่งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่มีการเก็บตัวเลขสถิติ ส่งผลให้อัตราการว่างงานอาจเพิ่มแตะระดับ 16% ซึ่งเป็นระดับที่สูงเป็นประวัติการณ์เช่นเดียวกัน สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กดดันการค้าและการบริโภค ขณะที่ญี่ปุ่นมีกำหนดประกาศดัชนีการใช้จ่ายภาคครัวเรือนประจำเดือนมีนาคม ซึ่งคาดว่าจะหดตัว 6.7% (YoY) รุนแรงขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัว 0.3% สืบเนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่นเดียวกัน
– สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เผย เตรียมดำเนินการกู้ยืมเงินเพิ่มเติมผ่านทางการขายตราสารหนี้เพิ่มราว 3 ล้านล้านดอลลาร์ ให้กับภาคเอกชน เพื่อเพิ่มงบประมาณในการช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
– ธนาคารอังกฤษ (BOE) มีมติ 7 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ย 0.1% พร้อมคงวงเงินเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ 200,000 ล้านปอนด์ ซึ่งจะส่งผลให้งบดุลสะสมของ BOE แตะระดับ 645,000 ล้านปอนด์ พร้อมทั้งระบุว่า หากสถานการณ์เศรษฐกิจยังคงยํ่าแย่ ทางธนาคารกลางก็พร้อมที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมในอนาคต และเผยประมาณการเศรษฐกิจปี 2020 ว่าเศรษฐกิจโลกอาจหดตัวถึง 12% จากผลกระทบของโควิด-19 ก่อนที่จะกลับมาขยายตัว 15% และ 5% ในปี 2021 และ 2022 ตามลำดับ หากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และมาตรการช่วยเหลือต่างๆ คงอยู่ถึงต้นเดือนมิถุนายน ก่อนที่จะทยอยลดลง และสิ้นสุดในไตรมาสที่ 3 ปี 2020
– เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนและสหรัฐฯ เผย สองฝ่ายเตรียมหารือกันทางโทรศัพท์ในสัปดาห์หน้าเป็นครั้งแรก หลังบรรลุข้อตกลงทางการค้าเฟส 1 เมื่อเดือนมกราคม 2020 ที่ผ่านมา โดยเตรียมประเมินความคืบหน้าในการดำเนินการตามข้อตกลงของจีน ซึ่งหากไม่เป็นไปตามเงื่อนไข สหรัฐฯ ก็อาจยกเลิกข้อตกลงฉบับเดิมได้ โดยผู้เจรจาครั้งนี้คาดว่าจะเป็น หลิว เฮ่อ รองนายกรัฐมนตรีจีน และ โรเบิร์ต ไลต์ทิเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ซึ่งการเจรจาการค้าในครั้งนี้ถูกจับตาอีกครั้ง หลังจากความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ย่ำแย่ลงอีกครั้ง สืบเนื่องจากกรณีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งทางการสหรัฐฯ ระบุว่า จีนมีส่วนต้องรับผิดชอบ
– กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เผย ได้อนุมัติวงเงินกู้ฉุกเฉินไปแล้วกว่า 18,000 ล้านดอลลาร์ ให้แก่สมาชิก 50 ประเทศ จากจำนวนทั้งหมด 189 ประเทศ เพื่อรับมือผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมระบุว่า กำลังดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อพิจารณาคำขอของประเทศที่ยังไม่ผ่านการอนุมัติ
สรุปภาพรวมตลาดวานนี้
– ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น แม้ตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกออกมาสูงกว่าคาด นำโดยกลุ่มพลังงานและเทคโนโลยี สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวบวกหลังยอดการส่งออกของจีนขยายตัวดีกว่าคาด ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียยังเคลื่อนไหวในแดนลบ หลังเกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสงครามการค้าระลอกใหม่ในช่วงคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
– ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ จากความกังวลว่าเศรษฐกิจยังมีความไม่ชัดเจนด้านอุปสงค์ ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งเป็นต้นทุนทางตรงของการถือครองทองคำในตลาดโลก
สหรัฐฯ
– Dow 30 อยู่ที่ 23875.89 เพิ่มขึ้น 211.25 (0.89%)
– S&P 500 อยู่ที่ 2881.19 เพิ่มขึ้น 32.77 (1.15%)
– Nasdaq อยู่ที่ 8979.66 เพิ่มขึ้น 125.27 (1.41%)
ยุโรป
– DAX อยู่ที่ 10759.27 เพิ่มขึ้น 153.07 (1.44%)
– FTSE 100 อยู่ที่ 5935.98 เพิ่มขึ้น 82.22 (1.4%)
– Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 2880.6 เพิ่มขึ้น 36.84 (1.3%)
– FTSE MIB อยู่ที่ 17245.04 เพิ่มขึ้น 85.73 (0.5%)
เอเชีย
– Nikkei 225 อยู่ที่ 19674.77 เพิ่มขึ้น 55.42 (0.28%)
– S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5364.2 ลดลง -20.4 (-0.38%)
– Shanghai อยู่ที่ 2871.52 ลดลง -6.62 (-0.23%)
– SZSE Component อยู่ที่ 10863.29 ลดลง -19.93 (-0.18%)
– China A50 อยู่ที่ 13407.36 ลดลง -34.08 (-0.25%)
– Hang Seng อยู่ที่ 23980.63 ลดลง -156.85 (-0.65%)
– Taiwan Weighted อยู่ที่ 10842.92 เพิ่มขึ้น 67.94 (0.63%)
– SET อยู่ที่ 1257.98 ลดลง -20.65 (-1.62%)
– KOSPI อยู่ที่ 1928.61 ลดลง -0.15 (-0.01%)
– IDX Composite ปิดทำการ
– BSE Sensex อยู่ที่ 31443.38 ลดลง -242.37 (-0.76%)
– PSEi Composite อยู่ที่ 5653.16 เพิ่มขึ้น 13.89 (0.25%)
Commodity
– ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 23.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -0.09 (-0.38%)
– ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 29.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -0.46 (-1.54%)
– ราคาทองคำ อยู่ที่ 1714.42 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 24.42 (1.45%)
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters
