- สถานการณ์ในตะวันออกกลางร้อนระอุ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ สั่งการให้สังหาร พลตรี กัสเซม โซเลมานี ผู้บัญชาหน่วยรบพิเศษกุดส์ของอิหร่าน พร้อมนายทหารระดับสูงและแกนนำกองกำลังฮาเชด อัล-ชาอาบี รวม 8 ราย ที่สนามบินนานาชาติแบกแดดในอิรักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามมาด้วยการประกาศพร้อมตอบโต้เพื่อแก้แค้นของผู้นำอิหร่าน ขณะที่รัฐสภาอิรักมีมติให้รัฐบาลสั่งการให้กองทัพต่างชาติออกไปจากประเทศ ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ขู่กลับว่าจะแทรกแซงอิรักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ส่งผลให้สถานการณ์ตึงเครียด ซึ่งหนุนราคาทองคำและน้ำมันปรับตัวขึ้นทันทีในเช้านี้
- จับตาราคาน้ำมันและทองคำพุ่งรับสถานการณ์ตึงเครียดหลังข่าวการสังหารผู้นำทหารระดับสูงของอิหร่าน พร้อมการตอบโต้จากทั้งสองฝ่าย ล่าสุดราคาทองคำพุ่งขึ้นมาที่ระดับ 1,575 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2013 ด้านราคาน้ำมันตลาด WTI ปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกันมาที่ระดับ 64.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางปีที่แล้ว
- ติดตามตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ เดือนธันวาคม ซึ่งประกอบไปด้วยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm Payrolls) โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.6 แสนตำแหน่ง และอัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) ซึ่งนักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 3.5% อยู่ในระดับเดียวกับเดือนก่อนหน้า
- ยุโรปประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ คืนนี้ยุโรปมีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพฤศจิกายน โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% (MoM) และลดลง 1.5% (YoY) นอกจากนั้นยังมีการเปิดเผยดัชนี Services PMI เดือนธันวาคมจากทั้งภูมิภาคยุโรปและประเทศเยอรมนี ซึ่งคาดไว้ที่ 52.4 จุด และ 52.0 จุด ตามลำดับ
- หลายภูมิภาคประกาศดัชนี Services PMI สัปดาห์นี้ โดยสหรัฐฯ มีกำหนดเปิดเผยดัชนี ISM Non-Manufacturing PMI เดือนธันวาคม โดยคาดไว้ที่ 54.5 จุด เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 53.9 จุด ส่วนดัชนี Caixin Services PMI เดือนธันวาคมของจีนประกาศออกมาที่ 52.5 จุดเมื่อเช้านี้ ยังยืนในระดับขยายตัว ด้านดัชนี Services PMI เดือนธันวาคมของประเทศญี่ปุ่นคาดไว้ที่ 50.6 จุด เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า
สรุปภาพรวมตลาดเมื่อวันศุกร์
- ดัชนี Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวลงจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังสหรัฐฯ สั่งโจมตีทางอากาศในประเทศอิรัก ทำให้ นายพล กัสเซม โซเลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษกุดส์ของอิหร่านเสียชีวิต ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงออกมา เช่นเดียวกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลงท่ามกลางความวิตกกังวลว่าอาจเกิดสงครามในตะวันออกกลาง
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวพุ่งขึ้นแรงจากกลุ่ม OPEC ที่เริ่มลดกำลังการผลิตน้ำมัน รวมไปถึงความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านที่อาจส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันในตะวันออกกลางลดลง ซึ่งจะทำให้อุปทานลดลง ส่วนอุปสงค์ยังมีอยู่ จนอาจเกิดภาวะน้ำมันขาดตลาด ด้านราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากปัจจัยไม่แน่นอนหลายๆ อย่างทั่วโลก รวมไปถึงการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยบางส่วนเพื่อจับตาดูสถานการณ์ทั่วโลกต่อไป
สหรัฐฯ
- Dow 30 ปิดที่ 28634.88 ลดลง 233.92 (-0.81%)
- S&P 500 ปิดที่ 3234.85 ลดลง 23 (-0.71%)
- Nasdaq ปิดที่ 9020.77 ลดลง 71.42 (-0.79%)
ยุโรป
- DAX ปิดที่ 13219.14 ลดลง 166.79 (-1.25%)
- FTSE 100 ปิดที่ 7622.4 เพิ่มขึ้น 18.1 (+0.24%)
- Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3773.37 ลดลง 19.87 (-0.52%)
- FTSE MIB ปิดที่ 23702.35 ลดลง 133.91 (-0.56%)
เอเชีย
- Nikkei 225 ปิดที่ 23656.62 ลดลง 181.1 (-0.76%)
- S&P/ASX 200 ปิดที่ 6733.5 เพิ่มขึ้น 42.9 (+0.64%)
- Shanghai ปิดที่ 3083.79 ลดลง 1.41 (-0.05%)
- SZSE Component ปิดที่ 10656.41 เพิ่มขึ้น 17.58 (+0.17%)
- China A50 ปิดที่ 14460.45 ลดลง 71.2 (-0.49%)
- Hang Seng ปิดที่ 28451.5 ลดลง 92.02 (-0.32%)
- Taiwan Weighted ปิดที่ 12110.43 เพิ่มขึ้น 9.95 (+0.08%)
- SET ปิดที่ 1594.97 ลดลง 0.85 (-0.05%)
- KOSPI ปิดที่ 2176.46 เพิ่มขึ้น 1.29 (+0.06%)
- IDX Composite ปิดที่ 6323.47 เพิ่มขึ้น 39.88 (+0.63%)
- BSE Sensex ปิดที่ 41464.61 ลดลง 162.03 (-0.39%)
- PSEi Composite ปิดที่ 7839.79 เพิ่มขึ้น 97.26 (+1.26%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 63.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.85 (+3.02%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 68.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.41 (+3.64%)
- ราคาทองคำปิดที่ 1555.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 27.05 (+1.77%)
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters