- คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงมติที่ประชุมด้วยคะแนนเสียง 4 ต่อ 2 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.75% โดยมีเพียง 2 เสียงเห็นควรต้องลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% กนง. มีความเห็นว่าสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยนั้นทำให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มหดตัวแรง และเงินเฟ้อมีแนวโน้มติดลบ อย่างไรก็ตาม ระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพ และตลาดเงินเริ่มกลับมาทำงานปกติ ซึ่งการระบาดในระยะข้างหน้ายังมีความรุนแรงและอาจต้องใช้เวลาอีกระยะกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
- วานนี้ อัตราผลตอบแทนตั๋วเงินคลังสหรัฐฯ อายุ 1 เดือน ปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดที่ -0.041% ก่อนฟื้นขึ้นมาที่ 0.010% วันนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดที่ -0.046% และฟื้นขึ้นมาที่ระดับ -0.031% ยังคงให้ผลตอบแทนติดลบ ตั้งแต่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ออกมาตรการพยุงตลาดการเงิน โดยการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยแบบฉุกเฉิน ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม และขยายวงเงิน QE ส่งผลให้แนวโน้มอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกลุ่มตราสารหนี้ระยะสั้นของภาครัฐ
- ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในยุโรปและสหรัฐฯ ยังเพิ่มสูงในแต่ละวัน โดยยอดผู้ติดเชื้อรวมในสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 11,192 รายสู่ระดับ 66,048 ราย ขณะที่อิตาลีอยู่ที่ 74,386 ราย เพิ่มขึ้น 5,210 ราย, สเปนอยู่ที่ 49,515 ราย เพิ่มขึ้น 7,457 ราย และเยอรมนีอยู่ที่ 37,323 ราย เพิ่มขึ้น 4,332 ราย
- สิงคโปร์ประกาศตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ประจำไตรมาสแรกของปี หดตัว 2.2% เทียบปีก่อนหน้า และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้จากระดับ -1.5% เป็นผลพวงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กระทบอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานและภาคบริการ
- ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ 1. อังกฤษประกาศตัวเลขยอดค้าปลีกประจำเดือนกุมภาพันธ์ คาดชะลอตัวเหลือ 0.2% เทียบเดือนก่อนหน้าที่ 0.9% 2. ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบายประจำเดือนมีนาคม 3. สหรัฐฯ ประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 4 ปี 2019 คาดทรงตัว 2.1% เทียบไตรมาสต่อไตรมาส
สรุปภาพรวมตลาดเมื่อวานนี้
- ดัชนี Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้นขานรับข้อตกลงมาตรการเยียวยาชาวอเมริกันและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในวงเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้นจากการที่นักลงทุนกลับเข้าซื้อหุ้น หลังคลายความกังวลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ที่จะช่วยพยุงให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นฟูอีกครั้ง
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นขานรับสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ออกมาน้อยกว่าที่คาด ส่งผลให้คลายความกังวลที่อาจเกิดภาวะน้ำมันล้นตลาด ด้านราคาทองคำปรับตัวลงจากแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุน จากที่ก่อนหน้านี้ปรับตัวขึ้นมาแรง และย้ายเม็ดเงินจากทองคำเข้าซื้อหุ้นที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วโลก
สหรัฐฯ
- Dow 30 อยู่ที่ 21200.55 เพิ่มขึ้น 495.64 (2.39%)
- S&P 500 อยู่ที่ 2475.56 เพิ่มขึ้น 28.23 (1.15%)
- Nasdaq อยู่ที่ 7384.3 ลดลง -33.56 (-0.45%)
ยุโรป
- DAX อยู่ที่ 9874.26 เพิ่มขึ้น 173.69 (1.79%)
- FTSE 100 อยู่ที่ 5688.2 เพิ่มขึ้น 242.19 (4.45%)
- Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 2800.14 เพิ่มขึ้น 85.03 (3.13%)
- FTSE MIB อยู่ที่ 17243.68 เพิ่มขึ้น 295.08 (1.74%)
เอเชีย
- Nikkei 225 อยู่ที่ 18815 ลดลง -732.5 (-3.75%)
- S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5082.3 เพิ่มขึ้น 84.2 (1.68%)
- Shanghai อยู่ที่ 2782.92 เพิ่มขึ้น 1.33 (0.05%)
- SZSE Component อยู่ที่ 10252.82 เพิ่มขึ้น 11.74 (0.12%)
- China A50 อยู่ที่ 12698.71 เพิ่มขึ้น 37.06 (0.29%)
- Hang Seng อยู่ที่ 23272 ลดลง -255.19 (-1.08%)
- Taiwan Weighted อยู่ที่ 9653.45 เพิ่มขึ้น 8.7 (0.09%)
- SET อยู่ที่ 1080.03 เพิ่มขึ้น 46.19 (4.47%)
- KOSPI อยู่ที่ 1706.34 เพิ่มขึ้น 1.58 (0.09%)
- IDX Composite อยู่ที่ 4207.99 เพิ่มขึ้น 270.36 (6.87%)
- BSE Sensex อยู่ที่ 28535.78 เพิ่มขึ้น 1861.75 (6.98%)
- PSEi Composite อยู่ที่ 5192.1 เพิ่มขึ้น 164.34 (3.27%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 24.1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -0.39 (-1.59%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 27.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -0.25 (-0.91%)
- ราคาทองคำอยู่ที่ 1624.8 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง -8.6 (-0.53%)
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ได้ที่ thestandard.co/coronavirus-coverage
และอัปเดตทุกความเคลื่อนไหวของโรคโควิด-19 ได้ที่ www.facebook.com/thestandardth
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters
