งบอัดฉีดเศรษฐกิจสหรัฐฯ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ยังไม่ผ่านสภาคองเกรส, คลัง ธปท. และ ก.ล.ต. แถลงมาตรการเสริมสภาพคล่อง ป้องกันความผันผวนในตลาดการเงินไทย: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (23 มี.ค. 2563)

– กระทรวงการคลัง ธปท. และ ก.ล.ต. แถลงมาตรการเสริมสภาพคล่อง ป้องกันความผันผวนในตลาดการเงินไทย จากสถานการณ์ที่นักลงทุนแห่เทขายกองทุนตราสารหนี้ จนสร้างผลกระทบให้กองทุนต้องเร่งขายตราสารหนี้ที่ส่วนใหญ่มีคุณภาพดีในราคาต่ำผิดปกติ เพราะสภาพคล่องขาดในช่วงเวลาดังกล่าว ส่งผลให้นักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนเหล่านั้นอาจได้รับผลตอบแทนต่ำกว่าที่ควรจะเป็น และอาจเกิดการ Panic Sell ต่อกองทุนอื่นๆ ตามมาจนกระทบทั้งระบบ ดังนั้นจึงออก 3 มาตรการป้องกัน ดังนี้

1. มาตรการเสริมสภาพคล่อง โดยธนาคารพาณิชย์สามารถเข้าซื้อกองทุนรวม Money Market และกองทุนรวม Daily Fixed Income ที่ถือสินทรัพย์คุณภาพดีที่ได้รับผลกระทบ นำเป็นหลักประกันเพื่อขอสภาพคล่องจาก ธปท. ผ่านการทำธุรกรรม Repo

2. กองทุนเสริมสภาพคล่อง วงเงิน 70,000-100,000 ล้านบาท เข้าซื้อเพื่อลงทุนในตราสารหนี้เอกชนออกใหม่ที่มีคุณภาพดี เพื่อช่วยการต่ออายุ (Rollover) ตราสารหนี้ที่ครบกำหนด

3. ธปท. รับซื้อพันธบัตรรัฐบาล เพื่อเสริมสภาพคล่อง โดยรับซื้อไปแล้วกว่า 100,000 ล้านบาท และจะทำอีกอย่างต่อเนื่อง

– งบฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐฯ มูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ยังไม่ผ่านสภา โดยสภาคองเกรสยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุมถึงการแจกเงินให้ประชาชนรายละ 1,200 ดอลลาร์ โดยร่างมาตรการดังกล่าวนำเสนอโดย มิตช์ แม็กคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกัน ทั้งนี้ ในการโหวตหยั่งเสียงรอบแรก ที่ประชุมมีมติด้วยคะแนนเสียง 47 ต่อ 47 ซึ่งยังขาดอีก 60 เสียงจึงจะสามารถผลักดันมาตรการดังกล่าวได้

– ตลาดฟิวเจอร์สหรัฐฯ ร่วงติด Circuit Breaker ต้องพักการซื้อขายช่วงคราวอีกครั้ง หลังจาก Dow Jones Futures ดิ่งลงไปแตะระดับ -5.00% ตามเกณฑ์ของตลาดสหรัฐฯ เมื่อเวลาประมาณ 05.33 น. ตามเวลาไทย หลังจากผลโหวตงบช่วยเศรษฐกิจมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ยังไม่ผ่านสภาฯ ประกอบกับความกังวลต่อการว่างงานที่อาจจะเพิ่มขึ้น หลัง เจมส์ บูลลาร์ด ประธาน Fed สาขาเซนต์หลุยส์ เผยมุมมองกับ Bloomberg วานนี้ ว่า อัตราการว่างงานในสหรัฐฯ อาจขึ้นไปแตะระดับ 30% ในเดือนหน้า

– IBM เดินหน้าจับมือทำเนียบขาวสร้าง Super Computer แก้ปัญหาโควิด-19 โดยวันอาทิตย์ที่ผ่านมา IBM บริษัทผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่ของโลก ประกาศให้ความร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ ในการยกระดับคอมพิวเตอร์ เพื่อให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีใช้ในการวิจัยและทดลองหาวัคซีนหรือยารักษาโรคโควิด-19 ดังกล่าว ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาในการทดลอง และคิดค้นสูตรยาได้อย่างมาก

– สายการบิน Emirates ตัดสินใจระงับทุกเที่ยวบิน จากปกติที่มีเส้นทางบินครอบคลุม 70 ประเทศทั่วโลก จะเริ่มหยุดให้บริการตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2020 แต่สำหรับเที่ยวบินขนส่งสินค้ายังให้บริการตามปกติ เนื่องจากมีการขนส่งจำนวนมาก ขณะเดียวกันบริษัทต้องออกกลยุทธ์ดูแลต้นทุน เช่น ลดเงินเดือนพนักงาน 25-50% เป็นเวลา 3 เดือน แทนที่จะขอให้พนักงานลาออก เพื่อการรักษาพนักงานที่มีคุณภาพไว้

สรุปภาพรวมตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

– ดัชนี Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยทางรัฐแคลิฟอร์เนียและนิวยอร์กของสหรัฐฯ ประกาศให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยภาครัฐและธนาคารกลาง ซึ่งสร้างความผ่อนคลายให้กับนักลงทุนให้กลับเข้ามาซื้อหุ้นที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง

– ราคาน้ำมันดิบร่วงกว่า 10% จากการแข่งขันกันผลิตระหว่างซาอุดีอาระเบีย และรัสเซีย ส่งผลให้ฝั่งอุปทานน้ำมันมีมากกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้ราคาน้ำมันลดลงอย่างต่อเนื่อง ด้านราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากความกังวลที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เพื่อจับตาดูสถานการณ์ต่อไป

สหรัฐฯ

– Dow 30 ปิดที่ 19173.98 ลดลง -913.21 (-4.55%)

– S&P 500 ปิดที่ 2304.92 ลดลง -104.47 (-4.34%)

– Nasdaq ปิดที่ 6879.52 ลดลง -271.06 (-3.79%)

ยุโรป

– DAX ปิดที่ 8928.95 เพิ่มขึ้น 318.52 (3.7%)

– FTSE 100 ปิดที่ 5190.78 เพิ่มขึ้น 39.17 (0.76%)

– Euro Stoxx 50 ปิดที่ 2548.5 เพิ่มขึ้น 94.42 (3.85%)

– FTSE MIB ปิดที่ 15731.85 เพิ่มขึ้น 264.88 (1.71%)

เอเชีย

– Nikkei 225 ปิดที่ 16448.5 ลดลง -104.33 (-0.63%)

– S&P/ASX 200 ปิดที่ 4449.4 ลดลง -367.2 (-7.62%)

– Shanghai ปิดที่ 2745.62 เพิ่มขึ้น 43.49 (1.61%)

– SZSE Component ปิดที่ 10150.13 เพิ่มขึ้น 130.27 (1.3%)

– China A50 ปิดที่ 12309.49 เพิ่มขึ้น 303.05 (2.52%)

– Hang Seng ปิดที่ 22805.07 เพิ่มขึ้น 1095.94 (5.05%)

– Taiwan Weighted ปิดที่ 9234.09 เพิ่มขึ้น 552.75 (6.37%)

– SET ปิดที่ 1127.24 เพิ่มขึ้น 83.05 (7.95%)

– KOSPI ปิดที่ 1463.69 ลดลง -102.46 (-6.54%)

– IDX Composite ปิดที่ 4194.94 เพิ่มขึ้น 89.52 (2.18%)

– BSE Sensex ปิดที่ 29915.96 เพิ่มขึ้น 1627.73 (5.75%)

– PSEi Composite ปิดที่ 4778.76 ลดลง 0 (0%)

Commodity

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 22.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -0.44 (-1.94%)

– ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 25.6 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -1.78 (-6.5%)

– ราคาทองคำ ปิดที่ 1492.4 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.8 (0.53%)

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง: 

• Infoquest
• Bloomberg
• Investing
• CNBC
• Reuters