ประธานาธิบดีเซาลี นีนิสเตอ และนายกรัฐมนตรีซานนา มาริน แห่งฟินแลนด์ แถลงจุดยืนสนับสนุนการเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวสำคัญที่อาจทำให้ชาติที่มีสถานะเป็นกลางมาตลอดอย่างฟินแลนด์กลายเป็นสมาชิกรายใหม่ของกองกำลังพันธมิตรทางทหารอันแข็งแกร่งที่นำโดยสหรัฐฯ
แถลงการณ์ร่วมระบุว่า “การเข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับความมั่นคงของชาติ และในฐานะชาติสมาชิก NATO ฟินแลนด์จะสามารถยกระดับศักยภาพของพันธมิตรด้านการป้องกันประเทศทั้งหมด ฟินแลนด์ต้องสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO โดยไม่ลังเล ทั้งนี้ เราจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อให้การตัดสินใจนี้สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่วันข้างหน้า”
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลได้ยื่นรายงานด้านความมั่นคงแห่งชาติต่อรัฐสภา โดยในรายงานดังกล่าวระบุด้วยว่า การเข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยเสริมความมั่นคงให้กับประเทศ
นับตั้งแต่ที่รัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ประชาชนชาวฟินแลนด์ต่างหันมาเทคะแนนสนับสนุนให้รัฐบาลเข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO จากเดิมที่อยู่เพียงประมาณ 30% ก็พุ่งขึ้นมาถึง 80% ในหลายโพลสำรวจความคิดเห็น
ทั้งนี้ หากรัฐสภาอนุมัติแนวคิดด้านการเข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO ตามหลักการแล้ว และสามารถผ่านขั้นตอนทางกฎหมายในประเทศต่างๆ ได้ ก็คาดว่า NATO จะเชิญฟินแลนด์ให้เข้ามาร่วมเจรจาเป็นสมาชิกในทันที นอกจากนี้ยังมีกระแสคาดการณ์ว่า เพื่อนบ้านของฟินแลนด์อย่างสวีเดนก็จะประกาศความประสงค์เข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO ด้วยเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม รัสเซียที่จับตาดูสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดนั้น เคยออกมาขู่ทั้งสองประเทศถึงผลกระทบที่อาจตามมา
นักการทูตและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของยุโรปประเมินว่า ฟินแลนด์มีแนวโน้มเข้าร่วมเป็นพันธมิตรได้อย่างรวดเร็วในทันทีที่การเจรจาเริ่มต้นขึ้น เนื่องจากฟินแลนด์ได้จัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย และสามารถทำงานร่วมกับชาติพันธมิตรตะวันตกได้มานานหลายทศวรรษแล้ว อีกทั้งยังผ่านเกณฑ์การเป็นสมาชิกหลายข้อ
การที่ฟินแลนด์เข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO นอกจากจะมีผลในแง่ของศักยภาพทางการทหารที่เพิ่มขึ้นแล้วนั้น ความเคลื่อนไหวดังกล่าวยังถือเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่สำคัญต่อรัสเซียและบรรดาชาติตะวันตก เพราะนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ฟินแลนด์ก็มีสถานะชาติเป็นกลางในสภาวะจำยอมมาโดยตลอด โดยฟินแลนด์พยายามอย่างหนักที่จะหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดการกระทบกระทั่งกับรัสเซีย และพยายามรักษาความสัมพันธ์ด้านการค้าอันดีกับรัสเซียมาอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม สงครามที่เกิดขึ้นในยูเครนได้ทำให้ฟินแลนด์ต้องคิดทบทวนการเดินเกมใหม่ ดังนั้น การเข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO จึงถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับอนาคต ไม่ว่าปฏิกิริยาของรัสเซียในเรื่องนี้จะออกมาเป็นเช่นไร
เจ้าหน้าที่กลาโหมยุโรปเคยเปิดเผยกับสำนักข่าว CNN ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาว่า NATO อาจเสนอรับประกันความปลอดภัยให้กับฟินแลนด์ในระหว่างที่กระบวนการเข้าร่วมเป็นสมาชิกยังไม่เสร็จสิ้น เพื่อคุ้มครองประเทศในกรณีที่รัสเซียออกมาตรการตอบโต้ก่อนที่ฟินแลนด์จะมีสถานะเป็นสมาชิก NATO อย่างเป็นทางการ
เมื่อวานนี้ (11 พฤษภาคม) บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ก็ได้ประกาศข้อตกลงด้านความมั่นคงฉบับใหม่กับฟินแลนด์และสวีเดน โดยให้คำมั่นว่าอังกฤษพร้อมเข้ามาช่วยเหลือประเทศทั้งสองหากมีการโจมตีเกิดขึ้น
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของ NATO มองว่า การที่ฟินแลนด์เข้าร่วมเป็นสมาชิกนั้นจะส่งผลดีกับองค์กรอย่างมาก เนื่องจากฟินแลนด์เป็นชาติที่ทุ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมสูงมาก และยังคงใช้ระบบการเกณฑ์ทหารที่ผู้ชายทุกคนจะต้องเข้ารับราชการเมื่ออายุถึงเกณฑ์ ซึ่งจะช่วยหนุนกองกำลังได้เป็นอย่างดี
ภาพ: Vitalii Vodolazskyi via ShutterStock
อ้างอิง: