ตลาดคริปโตซื้อ-ขายในสภาวะตลาดหมีมานับตั้งแต่ต้นปี 2022 ข่าวร้ายถาโถมเข้ามาในตลาดไม่หยุดยั้ง การล่มสลายของเครือข่าย Terra ได้ตอกย้ำความเชื่อมั่นในตลาดให้แย่ลงไปอีก แต่สิ่งหนึ่งที่น่าสังเกตคือ กระแสเงินลงทุนจากสถาบันการเงินเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้มากกว่าที่เคยมีมาในรอบ 5 ปี ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลกำลังจัดการเรื่องกฎระเบียบ และบริษัทคริปโตกำลังจัดการโครงสร้างการบริหารของพวกเขาให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณที่สดใสต่อตลาดคริปโตในอนาคต
มูลค่าตลาดคริปโตหายไปมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ท่ามกลางตลาดขาลงอย่างยาวนาน
ตลาดคริปโตซื้อ-ขายในสภาวะตลาดหมีมานับตั้งแต่ต้นปี 2022 ราคา Bitcoin ร่วงลงเกือบ 60% ในปีนี้ ปริมาณการซื้อ-ขายที่เบาบางลงถูกซ้ำเติมด้วยการล่มสลายของเครือข่าย Terra เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้ความเชื่อมั่นในตลาดแย่ลงเป็นอย่างมาก มูลค่าตลาดคริปโตที่เคยแตะระดับสูงสุด 2 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงตลาดกระทิง ปัจจุบันอยู่ที่ 9.21 แสนล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- การอัปเกรด The Merge ของ Ethereum และทิศทางในอนาคตของเหรียญ ETH
- ทำไมเหรียญ LUNC ถึงพุ่งกว่า 425% ภายใน 14 วัน? อะไรที่อยู่เบื้องหลังการพุ่งขึ้นครั้งนี้
- ไมเคิล เบอร์รี เตือนการล่มสลายครั้งประวัติศาสตร์กำลังจะเกิดขึ้น โดยมีต้นตอจากตลาดคริปโต
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเราได้ยินข่าวการปลดพนักงานและการเลิกจ้างมากมาย รวมถึงการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้บริหารของบริษัทคริปโตอีกด้วย
เริ่มตั้งแต่ Sam Trabucco ลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของ Alameda Research, Michael Moro ลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของ Genesis Global Trading และ Michael Patchen ออกจากตำแหน่ง Chief Risk Officer ที่บริษัทเดียวกันหลังจากผ่านไปเพียง 3 เดือน
นอกจากนี้ Aya Kantorovich ได้ออกจากหัวหน้าฝ่าย Institutional Coverage ของ FalconX Ltd. และ Ashwin Prithipaul ก้าวลงจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Voyager Digital หลังจากที่บริษัทประสบกับปัญหาล้มละลายเช่นกัน
การเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมคริปโตยุคแรกไปสู่ยุคพัฒนา
หลังจากที่ราคา BTC ร่วงลงจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 69,000 ดอลลาร์เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2021 จากนั้นราคาก็ซื้อ-ขายอยู่ที่ประมาณ 20,000 ดอลลาร์ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2022 ราคา Bitcoin มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นมากขึ้น อันเป็นผลมาจากอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนสถาบัน
ผู้บริหารที่มีประสบการณ์ด้านการเงินแบบดั้งเดิมเริ่มเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมคริปโตมากขึ้น ตัวอย่างเช่น Chris Ferraro ผู้มีประสบการณ์ด้านการเงินมาอย่างยาวนานถึง 18 ปีที่ JPMorgan Chase & Co. ได้เข้ามาแทนที่ Alex Mashinsky อดีตซีอีโอของบริษัทคริปโต Celsius หลังจากที่บริษัทประสบปัญหาคดีล้มละลาย
R.A. Farrokhnia ศาสตราจารย์จาก Columbia Business School ให้ความเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่ปรากฏการณ์พิเศษ ซึ่งหากพิจารณาจากประวัติศาสตร์แล้ว สภาพแวดล้อมของตลาดคริปโตในปัจจุบันมีความคล้ายคลึงกับธุรกิจเทคโนโลยีในปี 1991
เราได้เห็นกระแสเงินลงทุนจากสถาบันการเงินมากกว่าที่เคยเกิดขึ้นในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา พวกเขากำลังสำรวจอุตสาหกรรมนี้และเริ่มลงทุน ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลกำลังจัดการเรื่องกฎระเบียบ และบริษัทคริปโตกำลังจัดการโครงสร้างการบริหารของพวกเขาให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
David Pakman หุ้นส่วนของบริษัท VC Firm CoinFund เผยว่า การกำกับดูแลด้านกฎระเบียบที่แข็งแกร่งขึ้นจะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำคัญที่จะขับเคลื่อนตลาดคริปโตในอนาคต เขาได้ยกตัวอย่างถึง Bored Ape Yacht Club ของ Yuga Labs และ Coinbase แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตที่ถูกเพ่งเล็งจากสำนักงาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ การรับมือกับประเด็นเหล่านี้อาจต้องอาศัยผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในด้านระบบการเงินแบบดั้งเดิมมากกว่า เนื่องจากพวกเขาอาจรับมือกับสถานการณ์ประเภทนี้ได้ดีกว่า
สถาบันการเงินคว้าโอกาสในช่วงตลาดคริปโตขาลง
แม้ว่าเราจะได้เห็นข่าวร้ายที่ถาโถมเข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีบริษัทใหญ่ กองทุน รวมถึงสถาบันการเงินแบบดั้งเดิมมากมายที่กำลังสังเกตการณ์และเตรียมเข้าสู่อุตสาหกรรมคริปโต ปรากฏการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าความหวาดกลัวกำลังเกิดขึ้นในนักลงทุนรายย่อยเพียงบางกลุ่มเท่านั้น แต่สำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่นี่อาจเป็นโอกาสและการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ
BlackRock และ Coinbase Global Inc. ได้เป็นหุ้นส่วนธุรกิจกัน เพื่อช่วยเหลือลูกค้าในการซื้อขาย Bitcoin ขณะที่ BNY Mellon ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล ทางด้าน Visa และ Mastercard ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านการชำระเงิน ต่างก็หันมาสนับสนุนคริปโตในการชำระเงิน นี่ล้วนเป็นสัญญาณที่สดใสสำหรับตลาดในอนาคต
Matt Walsh หุ้นส่วนของบริษัท Castle Island Ventures VC กล่าวว่า เราอาจได้เห็นผู้มีความสามารถด้านการจัดการที่มีชื่อเสียงมากขึ้นเข้ามาในพื้นที่คริปโตมากขึ้น หรือแม้แต่ผู้บริหารที่เคยทำบริษัทมหาชนมาก่อน หรือผู้บริหารจากสถาบันการเงินขนาดใหญ่และมีการกำกับดูแล นอกจากนี้เขามองว่าความสนใจของสถาบันการเงินที่เพิ่มขึ้นทำให้สภาวะตลาดหมีในปัจจุบันนี้แตกต่างจากทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา
กล่าวโดยสรุปคือ ความสนใจของนักลงทุนสถาบันที่มากขึ้น การตรวจสอบกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น การบริหารจัดการโครงสร้างของบริษัทร่วมทุนที่รอบคอบมากขึ้น จะเป็นการเตรียมพร้อมให้อุตสาหกรรมคริปโตพร้อมก้าวสู่ขั้นต่อไป แต่อาจต้องอาศัยความช่วยเหลือของการเงินแบบดั้งเดิมด้วย
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น
อ้างอิง: