ดร.เอกนิติ เตรียมเสนอ ครม.เศรษฐกิจ ออกมาตรการเติมออกซิเจนให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ เตรียมลงทุนทำระบบป้องกันภัย เตรียมวางแนวทางพลิกฟื้นหาดใหญ่สู่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ด้านวิทัย ผู้ว่าธปท.ชี้ น้ำท่วมกระทบ 0.2% ของ GDP
วันนี้ (1 ธันวาคม) ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยว่า รัฐบาลเตรียมชงนโยบายเติมออกซิเจนช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบน้ำท่วม เข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ครั้งที่ 6/2568 นี้ โดยจะมีมาตรการพักต้น พักดอก ตลอดจนสินเชื่อดอกเบี้ย 0% เพื่อฟื้นฟูชีวิต และธุรกิจในพื้นที่ภาคใต้
ดร.เอกนิติระบุว่า จากการลงพื้นที่ที่หาดใหญ่เมื่อวานนี้ (30 พฤศจิกายน) ร่วมกับหน่วยงานด้านเศรษฐกิจต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย (ธปท.) สถาบันการเงินของรัฐ ธนาคารออมสิน และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปพ.) ทำให้ได้เห็นสภาพจริงของความเสียหายที่เกิดขึ้น
จากการประเมินเบื้องต้น ดร.เอกนิติกล่าวว่า ผลในเชิงเศรษฐกิจมหภาคไม่ได้เยอะ และไม่ได้กระทบกับ GDP ของประเทศไทย ซึ่งมีขนาดกว่า 20 ล้านล้านบาทมากนัก อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กระทบมากกว่า คือชีวิตคน ฉะนั้น การทำนโยบายจึงไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเศรษฐกิจมหภาคอย่างเดียว
ดร.เอกนิติกล่าวว่า ครม.เศรษฐกิจต้องการผสานนโยบายทั้งหมดเข้าด้วยกัน โดยได้ร่วมมือกับ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และธปท. เพื่อเยียวยาแก่ผู้ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย
“วันนี้ เขาไม่เหลืออะไรเลย เพราะฉะนั้น พักต้นพักดอก จึงจำเป็นเพราะว่าต้องการให้เขามีชีวิต ต่อลมหายใจก่อนให้ช่วงระยะหนึ่ง เพราะฉะนั้นดอกเบี้ย 0% จึงจำเป็น ส่วนประกัน ก็ต้องใช้เครื่องมือทุกอย่าง ถึงได้เอากระทรวงแรงงานมาด้วย เพื่อให้ประกันสังคมช่วยจ่าย” ดร.เอกนิติกล่าว
ดร.เอกนิติยังกล่าวว่า จะมีนโยบายเพื่อเรียนรู้จากบทเรียน จะต้องมีการทำระบบป้องกันภัย และการลงทุนเพื่ออนาคต ซึ่งได้รับการเสนอจากภาคเอกชนให้ฟื้นเศรษฐกิจหาดใหญ่ให้เป็นสมาร์ท ซิตี้ เหมือนกับปีนัง ที่เป็นฐานการผลิตเซมิคอนดักเตอร์
โดยดร.เอกนิติระบุว่า หาดใหญ่มีความพร้อม เพราะมีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ซึ่งหากวางระบบได้ หาดใหญ่อาจกลับมาฟื้นได้ดีกว่าเดิม ซึ่งกรอบการช่วยเหลือเพื่อฟื้นฟูชีวิต และธุรกิจจะ “ไม่ใช่แค่ช่วยลมหายใจสั้นๆ แต่ทำอย่างไรให้เขามีออกซิเจน เขาออกจากโรงพยาบาลได้ แล้วกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม”
น้ำท่วมภาคใต้กระทบ 0.1-0.2% ของ GDP
วิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย แสดงความเสียใจต่อเหตุอุทกภัย ซึ่งกระทบต่อชีวิตของผู้คนเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ผลกระทบทางเศรษฐกิจยังคงมีจำกัด เนื่องจากพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมีส่วนร่วมต่อ GDP ประมาณ 2.6% ทำให้ผลกระทบทางเศรษฐกิจอาจมีขนาดประมาณ 0.1-0.2% ของ GDP
ทั้งนี้ วิทัยเสริมว่า ทาง ธปท. ได้กำกับดูแลสถาบันการเงินให้ผ่อนปรนเกณฑ์ทั้งหมดที่ทำได้ เช่น เกณฑ์การจัดชั้นลูกหนี้ไม่ให้ไหลเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) การลดต้นลดดอกเบี้ย และการลดสัดส่วนการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต จาก 8% เหลือ 0-3% ขณะที่สถาบันการเงินของรัฐได้ลดต้นลดดอกเบี้ยเป็น 0% ในพื้นที่ที่มีความเสียหายรุนแรงแล้ว และมีมาตรการเสริมในพื้นที่น้ำท่วม 9 จังหวัด


