ถึงวันนี้เป้าหมายของ FILA ที่ต้องการจะเป็นมากกว่าแบรนด์เสื้อผ้ากีฬาเริ่มมาถูกทาง หลังปล่อยคอลเล็กชันแนวสปอร์ต-ไลฟ์สไตล์ พร้อมดึงไอดอลเกาหลีที่มีชื่อเสียงเข้ามาเป็นตัวแทนแบรนด์ โดยต้นปี 2024 เตรียมนำคอลเล็กชัน ฮันโซฮี นักแสดงเกาหลี เข้ามาจำหน่ายหวังดึงวัยรุ่นเข้าร้าน
จิราภา ชนะพันธ์ ผู้จัดการทั่วไป แบรนด์ฟีล่า บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ในอดีต FILA นับเป็นแบรนด์อุปกรณ์กีฬาสัญชาติอิตาลี แต่เมื่อบริบททุกอย่างทั้งเทรนด์แฟชั่นและการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น เนื่องจากแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ต่างมีการปรับตัวทั้งในแง่ของการปรับลดราคา พร้อมส่งคอลเล็กชันใหม่ออกมาเคลื่อนไหวในตลาดอยู่เป็นระยะๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- จากผู้ตาม adidas เริ่มตีโต้ Nike ในสงครามรองเท้า ‘Super Shoes’ ได้อย่างไร
- ฉลองให้กับ 50 ปี Arizona โมเดลรองเท้าสุดไอคอนิกจาก BIRKENSTOCK ที่เราเชื่อว่าคุณก็มีติดบ้าน
- Birkenstock รองเท้าสัญชาติเยอรมัน เคาะราคา IPO อยู่ที่ 46 ดอลลาร์ต่อหุ้น ท่ามกลางตลาดรองเท้าที่ชะลอตัว แต่นักลงทุนมั่นใจมีความสามารถทำกำไรสูง
ดังนั้นภาพลักษณ์ของแบรนด์วันนี้เริ่มเป็นมากกว่าแบรนด์เสื้อผ้ากีฬา ในช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่าแบรนด์มีการเปิดตัวสินค้าคอลเล็กชันใหม่ ทั้งรองเท้าและเสื้อผ้าในรูปแบบยูนิเซ็กซ์ ใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย และต้องกำหนดราคาให้เข้าถึงง่าย
อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ทำให้แบรนด์สามารถสร้างยอดขายเติบโตขึ้นได้คือการใช้พรีเซนเตอร์เข้ามาช่วยทำการตลาด อย่างในปี 2019 FILA ได้นำวง BTS กลุ่มศิลปิน K-Pop ที่มีชื่อเสียงและฐานแฟนคลับอันดับต้นๆ มารับหน้าที่เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์สินค้า ซึ่งช่วงนั้นได้รับการตอบรับจากกลุ่มวัยรุ่นอย่างมาก
สิ่งที่น่าสนใจในต้นปี 2024 ที่จะถึงนี้ FILA เตรียมดึง ฮันโซฮี นักแสดงเกาหลีที่มีชื่อเสียง เข้ามาช่วยสื่อสารแบรนด์ในฐานะ Global Brand Ambassador ของ FILA คู่กับ เฮลีย์ บีเบอร์ พร้อมร่วมทำกิจกรรมทั้งในเอเชียและทั่วโลก ซึ่ง FILA ในประเทศไทยก็ได้นำซอฟต์พาวเวอร์เกาหลีมาทำการตลาด พร้อมเตรียมนำคอลเล็กชันฮันโซฮีทั้งเสื้อผ้าและรองเท้ามาจำหน่ายในปีหน้า
“เราพยายามทำการตลาดกับกลุ่ม Millennial และ Gen Z ด้วยการมองเทรนด์แฟชั่นทั้งในและต่างประเทศมาพัฒนาต่อยอดกับกลุ่มสินค้า โดยเฉพาะเทรนด์เกาหลีที่มาแรง และอีก 10 ปีก็ไม่มีวันตาย”
อีกทั้งล่าสุดยังได้เปิดตัวคอลเล็กชัน ‘FILA x Smiley®’ มีสินค้าโททัลลุคที่หลากหลาย เช่น ทีเชิ้ต เสื้อพูลโอเวอร์ กางเกงขาสั้น กระโปรง สเวตเชิ้ตวินเทจ และกระโปรงพลีต ซึ่งเป็นการคอลแลบกับแบรนด์ที่มีแนวคิดเดียวกันอย่าง The Smiley Company ไอคอนเอกลักษณ์รูปใบหน้ายิ้มสีเหลือง หรือที่หลายคนต่างเรียกว่าสัญลักษณ์ของพลังบวก
เบื้องต้นระยะเวลาการวางจำหน่ายอยู่ที่ 3 เดือนจนกว่าจะหมดสต๊อก ซึ่งปกติแล้วจะอยู่ประมาณ 1 ปี เชื่อว่าสินค้าคอลเล็กชันดังกล่าวจะทำให้แบรนด์มีความน่าตื่นเต้นมากขึ้น
รวมทั้งการกลับมาของ Original Tennis OG 1985 รองเท้าเทนนิสที่มีการปรับแต่งใหม่ด้วยงานออกแบบสุดคลาสสิกเฉพาะตัวของ FILA พร้อมไอคอน Smiley® โดยคอลเล็กชันนี้จะเน้นตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายหลักอย่าง Millennial และ Gen Z ที่มีอายุประมาณ 18-35 ปี ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือ First Jobber
ต่อจากนี้แบรนด์จะมีความเคลื่อนไหวในตลาดอย่างต่อเนื่อง และยังเปิดโอกาสคอลแลบกับแบรนด์อื่นๆ เพื่อพัฒนาสินค้าใหม่ที่สะท้อนถึงตัวตนและเอกลักษณ์ออกมารับเทรนด์แฟชั่นที่กำลังมาแรงในช่วงนั้นๆ โดยปกติแล้วใน 1 ปี จะมีการคอลแลบกับแบรนด์อื่นๆ 1 ครั้ง ที่ผ่านมาก็มีทั้ง FILA x BTS, FILA x CARNIVAL ซึ่งพบว่ามีฐานลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ภาพรวม FILA ประเทศไทย 10 เดือนแรก บริษัทมียอดขายเติบโตขึ้น ส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมการช้อปปิ้งสินค้าสปอร์ตไลฟ์สไตล์ที่มีความเป็นฟังก์ชันนัลมากขึ้น ซึ่งสินค้าของ FILA ก็ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี
โดยปัจจุบันกลุ่มสินค้าหลักๆ ยังเป็นรองเท้าที่ประมาณ 40% ตามด้วยเสื้อผ้า 20% และอื่นๆ 40% และในปัจจุบัน FILA มีสาขาที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าประมาณ 87 สาขา สแตนด์อโลนประมาณ 16 สาขา และเอาต์เล็ต 1 สาขา
