วันนี้ (18 ตุลาคม) สื่อต่างประเทศรายงานว่า อินโดนีเซียเตรียมทำลายสนามฟุตบอล ที่เกิดเหตุโศกนาฏกรรมในวงการฟุตบอลอินโดนีเซีย ที่แฟนบอลทะเลาะวิวาทกันจนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 130 คน เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา
โดยประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังจากการประชุมกับ จานนี อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) หลังเกิดเหตุโศกนาฏกรรมดังกล่าว และได้ตกลงร่วมกันในการจัดทีมชุดพิเศษแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่อินโดนีเซียเตรียมจะเป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปีในปี 2023
ซึ่งทางผู้นำของอินโดนีเซียเห็นด้วยกับอินฟานติโนว่า วิธีการบริหารกีฬาในอินโดนีเซียต้องได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
“สนามกันจูรูฮันในมาลังจะถูกทำลาย และสร้างใหม่ตามมาตรฐานของฟีฟ่า เราเห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงฟุตบอลในอินโดนีเซีย หลักการทุกอย่างในการเตรียมต้องเป็นไปตามมาตรฐานของฟีฟ่า” วิโดโดกล่าว
ขณะที่อินฟานติโนยืนยันว่า ฟีฟ่าให้ความสำคัญที่สุดกับความปลอดภัยของทั้งนักเตะในสนาม และแฟนบอลบอลในภูมิภาคอาเซียน
“นี่เป็นประเทศที่มีความรักในฟุตบอล มีแฟนบอลกว่า 100 ล้านคน เรามีหน้าที่ต้องจัดการแข่งขันให้ปลอดภัยสำหรับพวกเขา” อินฟานติโนกล่าว
สำหรับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ในฟุตบอลลีกอินโดนีเซีย ที่จังหวัดชวาตะวันออก ระหว่างทีมอารีมา เอฟซี พบกับ เปอร์เซบายา สุราบายา หนึ่งในคู่อริที่ขัดแย้งกันรุนแรงมายาวนาน
โดยเกมจบลงด้วยชัยชนะของทีมเยือนสกอร์ 3-2 ก่อนที่แฟนบอลของทีมอารีมา เจ้าถิ่นที่อยู่ฝั่งอัฒจันทร์ด้านตะวันออกของสนามได้เดินไปหาเรื่องแฟนบอลทีมเยือน และ ปะทะกับแฟนบอลทีมเยือน
เหตุการณ์เกิดความรุนแรงขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่จะทำการยิงแก๊สน้ำตาเพื่อระงับเหตุ ซึ่งผิดหลักการของการควบคุมฝูงชนของฟีฟ่า และทำให้แฟนบอลตกใจ พยายามหนีออกจากสนามจนนำไปสู่การเหยียบกันตาย และมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตรวมกว่า 130 คน
สำหรับข้อมูลล่าสุดจากทีมสำรวจค้นหาความจริง และวิเคราะห์เหตุการณ์ครั้งนี้ของรัฐบาลอินโดนีเซีย ได้เปิดเผยรายงานว่า การใช้แก๊สน้ำตาที่มากเกินความจำเป็น เป็นเหตุผลหลักที่นำไปสู่การเสียชีวิตในครั้งนี้ เนื่องจากแฟนบอลพยายามที่จะหนีออกจากสนามหลังเหตุการณ์ความวุ่นวาย จนทำให้เกิดเหตุการณ์เหยียบกันตาย
รวมถึงรายงานที่ระบุว่า การขายตั๋วเข้าชมการแข่งขันที่ 42,000 ใบ แม้ว่าสนามกีฬาจะบรรจุคนได้เพียง 38,000 คน
ทีมงานค้นหาความจริงของรัฐบาลอินโดนีเซียยังเผยว่า ฟุตจากกล้องวงจรปิดหนึ่งชั่วโมงหลังจากจบเกมถูกลบไป และทางทีมได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยฟุตภาพดังกล่าวให้กับทีม รวมถึงเรียกร้องให้นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลอินโดนีเซียลาออกจากตำแหน่ง
อ้างอิง: