วันนี้ (25 พฤศจิกายน) BBC สื่อชื่อดังของอังกฤษ รายงานว่า สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ FIFA ในฐานะองค์กรปกครองโลกของฟุตบอล เตรียมดำเนินการทางวินัยกับทั้งบราซิลและอาร์เจนตินา หลังแฟนบอลของทั้งสองชาติทะเลาะวิวาทกันจนทำให้เกมดังกล่าวล่าช้า
การแข่งขันนัดดังกล่าวต้องดีเลย์เป็นเวลาราว 30 นาที หลังจากเกิดการวิวาทบนอัฒจันทร์ในสนามกีฬามาราคานา เมืองรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล
ลิโอเนล เมสซี กัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา กล่าวภายหลังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเป็นโศกนาฏกรรม และวิพากษ์วิจารณ์ตำรวจที่เข้าควบคุมแฟนบอลด้วยกระบอง
โดยแฟนบอลบางคนก็พยายามทำลายที่นั่งและโยนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่แฟนบอลบางส่วนทะลักลงไปในสนามเพื่อหนีการควบคุมจากเจ้าหน้าที่
ผู้เล่นจากทั้งสองฝ่ายต้องเดินไปที่อัฒจันทร์เพื่อพยายามยุติสถานการณ์ และสงบสติอารมณ์ของแฟนบอล โดยมีผู้เห็น เอมิเลียโน มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูของแอสตัน วิลลา พยายามคว้ากระบองจากมือเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
หลังจากที่ผู้เล่นออกจากสนาม การแข่งขันก็สามารถกลับมาเริ่มแข่งขันได้อีกครั้งหลังจากดีเลย์ไป 30 นาที ก่อนที่อาร์เจนตินาจะเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 1-0
อย่างไรก็ตาม สหพันธ์ระดับชาติของทั้งสองทีมกำลังเผชิญกับการลงโทษที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งโดยทั่วไปอาจมีโทษปรับ รวมถึงการแบนไม่ให้แฟนบอลเข้าชมเกมในสนามด้วย
โดยแถลงการณ์ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติระบุว่า “FIFA ขอยืนยันว่าคณะกรรมการพิจารณาด้านวินัยได้เปิดการสอบสวนต่อสหพันธ์ฟุตบอลบราซิล (CBF) และสมาคมฟุตบอลอาร์เจนตินา (AFA) เรียบร้อยแล้ว”
“ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเป็นการละเมิดมาตรา 17 ของประมวลวินัยของ FIFA ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในการแข่งขัน”
อ้างอิง: