เจ้าหน้าที่ Fed บางคนเรียกร้องให้มีการทบทวนหรือยุติการทำ QT หรือการลดขนาดงบดุลในการประชุม FOMC เมื่อเดือนธันวาคม สะท้อนว่าเวลาที่ Fed จะเลิกทำ QT อาจอยู่ไม่ไกล เป็นการตอกย้ำความหวังของตลาดที่ว่า ปีนี้อาจเป็นปีทองของตลาด ‘พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ’
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจในรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) หรือ Minutes เมื่อเดือนธันวาคม แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ Fed บางคนแนะให้มีการทบทวนนโยบาย QT (Quantitative Tightening) หรือการลดขนาดงบดุลของธนาคารกลาง
ทั้งนี้ QT คือหนึ่งในเครื่องมือของ Fed ยามต้องการถอนสภาพคล่องและลดปริมาณเงินที่ไหลเวียนในระบบเศรษฐกิจ โดยมาตรการ QT ส่วนใหญ่จะเป็นการปล่อยให้ตราสารที่ Fed ถือครองครบกำหนดโดยไม่ซื้อใหม่ เพื่อดูดสภาพคล่องจำนวนนั้นออกจากระบบเศรษฐกิจ
โดยหาก Fed ชะลอการลดขนาดงบดุลจริง อาจเป็นการช่วยหนุนราคาพันธบัตรรัฐบาล และลดความผันผวนในตลาดบอนด์ ซึ่งก่อนหน้านี้ประสบกับภาวะอุปทานที่ล้นหลามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
Bob Michele ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน (CIO) ของ JPMorgan Asset Management กล่าวว่า “การสิ้นสุดของมาตรการ QT จะช่วยขจัดความกังวลสำหรับนักลงทุนที่กำลังมีเงินสด และสงสัยว่าพวกเขาควรจะเข้าสู่ตลาดบอนด์หรือไม่”
ย้อนกลับไปในช่วงโควิดระบาดหนัก Fed ได้อัดฉีดเงินหลายล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบการเงินผ่านมาตรการ QE หรือการซื้อตราสารทางการเงินเพื่อรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ในเดือนพฤษภาคม 2022 Fed ได้เริ่มดำเนินมาตรการ QT เพื่อลดงบดุลขนาด 9 ล้านล้านดอลลาร์ลง เพื่อกำราบเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นในเวลานั้น
โดยนับตั้งแต่เริ่มทำ QT หรือยุติการซื้อพันธบัตรใหม่ ตอนนี้การถือครองพันธบัตรของ Fed ลดลงเหลือ 7.2 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว
ทำให้ในรายการประชุม FOMC ครั้งล่าสุด แสดงให้เห็นว่าผู้กำหนดนโยบายบางคนต้องการให้มีการอภิปรายเกี่ยวกับการปรับปรุงแผน QT ท่ามกลางแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ผ่อนคลายลงอย่างต่อเนื่อง และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่กำลังจะเกิดขึ้น
โดย Joseph Abate นักกลยุทธ์ของ Barclays กล่าวว่า “นี่ดูเหมือนเป็นก้าวแรกในการยุติ QT”
อ้างอิง: