ในการขึ้นแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านบริการการเงินสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (14 กรกฎาคม) เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยังได้ตอบข้อซักถามในประเด็นที่เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการจัดทำเงินดอลลาร์ดิจิทัล
ทั้งนี้ทางคณะกรรมาธิการได้ถามพาวเวลล์ว่า การที่ Fed ออกสกุลเงินดอลลาร์ดิจิทัลจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการมีคริปโตเคอร์เรนซี หรือ Stablecoin ในระบบการชำระเงินใช่หรือไม่ ซึ่งประธาน Fed ตอบรับว่าใช่ พร้อมยอมรับว่าเหตุผลดังกล่าวเป็นเหตุผลสำคัญที่สนับสนุนให้ Fed ควรดำเนินการเรื่องสกุลเงินดิจิทัล เพราะหากสหรัฐฯ มีเงินสกุลดิจิทัลของตนเอง ก็ไม่จำเป็นต้องมีคริปโตเคอร์เรนซีตัวอื่นๆ อีกต่อไป
พาวเวลล์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของ Fed จะทำการศึกษาแวดวงการชำระเงินดิจิทัลอย่างกว้างๆ ก่อนเผยแพร่ผลการศึกษาในเอกสารที่น่าจะมีการเปิดเผยในต้นเดือนกันยายนนี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้ Fed พิจารณาว่าควรจะออกสกุลเงินดิจิทัลของตนเองหรือไม่
โดยในมุมมองของพาวเวลล์ เจ้าตัวกล่าวว่าสินทรัพย์คริปโตเคอร์เรนซีมีแนวโน้มจะกลายเป็นช่องทางการชำระเงินหลักในสหรัฐฯ ดังนั้นสหรัฐฯ จำเป็นต้องมีการออกมาตรการและกฎระเบียบเพิ่มเติมที่เหมาะสม ก่อนที่เงินดิจิทัลเหล่านี้จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในระบบการเงิน
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ทางธนาคารกลางของสหรัฐฯ ยังคงถกเถียงเรื่องการจัดทำสกุลเงินดิจิทัล ทางธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ออกมาประกาศเปิดตัวโปรเจกต์เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการออกสกุลเงินยูโรดิจิทัล หลังใช้เวลาศึกษาความเป็นไปได้นานหลายเดือน นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญของการเริ่มต้นสกุลเงินดิจิทัลยูโร ที่จะตอบสนองต่อความต้องการใช้สกุลเงินดิจิทัล และเตรียมพร้อมต่อกรรับมือกับบรรดาคริปโตเคอร์เรนซี
แถลงการณ์ของ ECB ระบุว่า ทางธนาคารกลางแห่งยุโรปได้ตัดสินใจเปิดตัว ‘ขั้นตอนตรวจสอบ’ ของโครงการดิจิทัลยูโร และขั้นตอนนี้จะกินระยะเวลา 24 เดือน หรือ 2 ปี โดยการตรวจสอบจะมุ่งเน้นไปที่การออกแบบฟังก์ชันการทำงานที่เป็นไปได้และกระบวนการกระจาย
อ้างอิง: