สถานีโทรทัศน์ CNBC รวบรวมความเห็นของนักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญที่ออกมาแสดงความเห็นคาดการณ์ผลการประชุมของคณะกรรมการกำกับนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ระหว่างวันที่ 14-15 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า ผลการประชุมสุดท้ายของปีนี้ Fed น่าจะเร่งยกระดับนโยบายการเงินให้เข้มงวดมากขึ้น พร้อมกำหนดเงื่อนเวลาที่ชัดเจนในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ทั้งนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่า การเร่งเพิ่มความเข้มงวดซึ่งหมายถึงการลดปริมาณการซื้อคืนพันธบัตรรายเดือนเพื่อยุติการบังคับใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จะทำให้แต่เดิมที่ QE จะยุติในเดือนมิถุนายนปีหน้า สิ้นสุดเร็วขึ้นที่เดือนมีนาคม ส่งผลให้ Fed มีพื้นที่พอที่จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับ 0%
นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งคาดว่า Fed จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาอยู่ที่ 2-3% ในปีหน้า และขยับขึ้นมาอยู่ที่ 3-4% ในปี 2023 โดยการประชุม Fed ก่อนหน้านี้ ทางคณะกรรมการเห็นชอบให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2022 แต่ไม่ได้ระบุว่าจะต้องขึ้นในช่วงเวลาใด และขึ้นไปอยู่ที่อัตราเท่าไร ซึ่งการประชุม Fed ในคราวนี้ หลายฝ่ายเชื่อว่าน่าจะมีรายละเอียดที่ชัดเจนมากขึ้น
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์อีกหลายสำนักยังเชื่อว่า ในการประชุมคราวนี้ Fed น่าจะออกมายอมรับได้สักทีแล้วว่า ภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบันไม่ใช่ปัญหาชั่วคราวอย่างที่ Fed เคยยืนกรานอย่างหนักแน่นก่อนหน้านี้ รวมถึงยอมรับว่าเงินเฟ้อที่พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพฤศจิกายนที่ 6.8% เป็นภัยคุกคามอันตรายต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และไม่อาจนิ่งนอนใจได้อีกต่อไป ทำให้ Fed ต้องเร่งพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP