ฉากทัศน์ที่ว่า Fed จะ ‘หยุด’ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้มีน้ำหนักมากขึ้นในสายตาของเหล่าผู้เชี่ยวชาญบางคน หลัง Fed ประกาศความร่วมมือกับธนาคารกลาง 5 แห่ง เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับระบบการเงินโลกผ่าน Swap Line
โดยก่อนหน้านี้ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่พากันคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เดินหน้าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในวันพุธที่ 22 มีนาคมนี้ สู่ระดับ 4.75 – 5%
อย่างไรก็ตาม ในบ่ายวันอาทิตย์ (19 มีนาคม) Fed และธนาคารกลางอีก 5 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกลางแคนาดา (BoC), ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE), ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ), ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ ได้ประกาศการดำเนินการเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับระบบการเงินโลก ผ่านการทำ U.S. Dollar Swap Line โดยเพิ่มความถี่ในการเข้าถึงจากรายสัปดาห์เป็นรายวัน
การทำ Swap Line นับเป็นการดำเนินการที่เคยเกิดขึ้น ยามเกิดวิกฤตครั้งผ่านๆ มา รวมถึงช่วงที่ Lehman Brothers ล้มละลายเมื่อปี 2008 ด้วย โดยการทำ Swap Line ครั้งนี้ ยังเกิดขึ้นขณะที่ UBS Group AG ตกลงซื้อ Credit Suisse Group AG โดยมีรัฐบาลเป็นนายหน้า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อยับยั้งวิกฤตความเชื่อมั่นในตลาดทั่วโลก
สอดคล้องกับความเห็นของ Julia Coronado ประธานบริษัท MacroPolicy Perspectives LLC ที่ว่า การประสานงานกับธนาคารกลางแห่งอื่นๆ คือความมุ่งมั่นในการรักษาเสถียรภาพของสภาพคล่องในระบบธนาคารของ Fed
การทำ Swap Line บ่งบอกถึงอะไร? Fed จะหยุดขึ้นดอกเบี้ยหรือยัง?
Laurence Meyer อดีตผู้ว่าการ Fed และทีมจากบริษัทวิจัย Monetary Policy Analytics กล่าวในบันทึกว่า การดำเนินการต่างๆ ในวันอาทิตย์ บ่งบอกถึงความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความเสี่ยงจากการติดเชื้อทางการเงิน (Financial Contagion)
พร้อมระบุอีกว่า การตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในสัปดาห์นี้ ‘คาดเดายาก’ แต่ความเสี่ยงในการหยุดขึ้นดอกเบี้ย (Pause) ที่สูงขึ้น อาจบ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่สูงขึ้นที่ FOMC จะระงับการไหลออกของงบดุล (Suspend Balance Sheet Runoff) ด้วย
โดยข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (16 มีนาคม) แสดงให้เห็นว่าธนาคารในสหรัฐฯ กู้ยืมเงินจาก Fed จำนวนมากเป็นประวัติการณ์ ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 มีนาคม ซึ่งสูงกว่าระดับสูงสุดที่เคยทำไว้ในช่วงวิกฤตการเงินปี 2008 และส่งสัญญาณถึงปัญหาการระดมทุนในวงกว้าง
ขณะที่ Krishna Guha นักวิเคราะห์ของ Evercore ISI และอดีตเจ้าหน้าที่ Fed สาขานิวยอร์ก กล่าวเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า การปรับขึ้น 0.25% ยังคงเป็นกรณีพื้นฐานของเรา แต่การทำ FX Swap บ่งบอกถึงความกังวลของสหรัฐฯ และหากเราเห็นปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์อย่างรุนแรงในด้านการเงินของยุโรปต่อข่าวนี้ เราก็อาจเห็นการหยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ความมั่งคั่งจากหุ้นของชาวอเมริกันหายไปกว่า 9 ล้านล้านดอลลาร์ จากที่เคยเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวหลังวิกฤตโควิด
- ตามคาด ‘Fed’ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% พร้อมส่งสัญญาณปรับขึ้นต่อ หวังคุมเงินเฟ้อให้อยู่หมัด
- นักวิเคราะห์ชี้พิษนโยบาย Fed เป็นเหตุทำตลาดหุ้นทั่วโลกปั่นป่วน
อ้างอิง:
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2023-03-20/case-for-fed-pause-builds-following-crisis-echoing-move-on-swaps?sref=CVqPBMVg
- https://www.reuters.com/business/finance/fed-other-central-banks-set-joint-liquidity-operation-2023-03-19/?taid=641797791df97400010ffcd5&utm_campaign=trueAnthem:+Trending+Content&utm_medium=trueAnthem&utm_source=twitter