ดร.สกอตต์ กอตเลียบ อดีตผู้อำนวยการองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ในสมัยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความเห็นขณะให้สัมภาษณ์กับรายการทางสถานีโทรทัศน์ CNBC ระบุชัดว่า การแพร่เชื้อได้เร็วของโควิดสายพันธุ์เดลตา ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าระดับการระบาดของสายพันธุ์เดลตาจะเข้าสู่ระดับสูงสุดในช่วงปลายเดือนสิงหาคมต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเดือนกันยายน ซึ่งเร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์กันไว้ก่อนหน้า
ทั้งนี้อดีตผู้อำนวยการ FDA รายนี้อธิบายว่า แนวโน้มที่เอ่ยมาข้างต้นหมายความว่า ในช่วง 3-4 สัปดาห์นับจากนี้ สหรัฐฯ มีสิทธิ์เห็นรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และที่น่ากังวลใจยิ่งกว่าก็คือ การที่ไม่อาจจะประมาณการตัวเลขได้ชัดเจน เพราะหลายพื้นที่ส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ ขณะนี้ลดระดับการทดสอบการติดเชื้อกันแล้ว
ขณะเดียวกันระดับการแพร่ระบาดในสหรัฐฯ มีสิทธิ์ทวีความรุนแรงขึ้น เพราะโรงเรียนส่วนใหญ่ทั่วประเทศจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง จนเสี่ยงต่อการเป็นแหล่งแพร่เชื้อแหล่งใหม่ โดย ดร.กอตเลียบ ยังเตือนว่า การใส่หน้ากากอนามัยโดยเฉพาะหน้ากากผ้าธรรมดาอาจไม่เพียงพอต่อการป้องกันไวรัสสายพันธุ์เดลตาอีกต่อไป พร้อมแนะนำให้โรงเรียนเพิ่มมาตรการป้องกันในระดับสูงสุด ทั้งการสร้างคอกกั้น เพิ่มพื้นที่ว่าง หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกัน งดกิจกรรมกลุ่ม และปรับปรุงระบบหมุนเวียนอากาศ
ขณะที่ในส่วนของภาคธุรกิจ ดร.กอตเลียบแนะนำให้เจ้าของบริษัททั้งหลายเลื่อนระยะเวลาที่จะให้พนักงานกลับมาทำงานที่ออฟฟิศออกไปก่อน โดยมองว่าช่วงเดือนตุลาคมน่าจะเหมาะสมมากกว่า ส่วนในกรณีของการฉีดวัคซีน ก็ขอให้ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเข้ารับการฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด พร้อมแนะให้ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคสหรัฐฯ (CDC) เดินหน้าเก็บข้อมูลคนที่ได้รับวัคซีนว่ามีผลข้างเคียงใดๆ หรือไม่ รวมถึงศึกษาโอกาสความเป็นไปได้ที่คนที่ได้รับวัคซีนแต่ยังติดเชื้อจะมีโอกาสแพร่เชื้อได้มากน้อยแค่ไหนด้วย
