วันนี้ (9 ก.ค.) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางไปที่ศูนย์บัญชาการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่มจังหวัดภูเก็ต เพื่อรับรายงานความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยภายหลังการประชุมติดตามปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหาย ทางศูนย์บัญชาการฯ เปิดเผยข้อมูลว่า หลังจากนี้จะมีการจัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกพิธีกรรมทางศาสนา ณ วัดโฆษิต จังหวัดภูเก็ต ทำหน้าที่ดูแลอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งเรื่องเอกสารและพิธีกรรมจนเสร็จสิ้นสมบูรณ์ และเดินทางกลับพร้อมอัฐิ โดยจะส่งต่อให้ศูนย์ประสานงานที่สนามบินดูแลอำนวยความสะดวกต่อไป โดยมีวัฒนธรรมจังหวัดเป็นหน่วยประสานงานหลัก บูรณาการเจ้าหน้าที่จากกรมการศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มูลนิธิกุศลธรรม ศูนย์แก้ไขปัญหาการหลอกลวงและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว และกระทรวงการต่างประเทศ
นอกจากนี้ เทศบาลนครภูเก็ตจะจัดทีมทะเบียนราษฎร์ไปให้บริการออกใบมรณบัตรที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตและที่วัด ซึ่งวัดที่ใช้ประกอบพิธีฌาปนกิจมีทั้งหมด 15 แห่ง จัดพิธีได้สูงสุดวัดละ 2 ศพ/วัน และวัดม่าหนิกเผาได้ 4 ศพ/วัน
หากเป็นพิธีทางศาสนาคริสต์ หากญาติประสงค์จะฝัง สามารถฝังได้ที่สุสานคริสเตียน แต่ถ้าเผาจะต้องเผาที่วัดเช่นกัน และมีศิษยาภิบาลคอยอำนวยความสะดวกทำพิธีให้ ส่วนพิธีทางศาสนาอิสลามจะมีมัสยิดทั้งหมด 58 แห่ง โดยมีโต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดดูแลทำพิธีให้ และกรณีนำศพกลับประเทศ บริษัท สกายเทรดเซอร์วิสเซส ซึ่งบริการด้านการขนส่งคาโก้จะช่วยขนส่งศพกลับประเทศ โดยจะให้บริการครบวงจรตั้งแต่แพ็กหีบห่อ และเรื่องเอกสารทั้งต้นทางและปลายทาง
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศจะยกเว้นค่าธรรมเนียมการแปลเอกสารและรับรองทุกชนิด ส่วนค่าธรรมเนียมการต่ออายุวีซ่า ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ประสบภัยทุกกรณี
โดยนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า รัฐบาลจะสืบสวนค้นหาความเป็นจริงถึงสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ หากมีความเกี่ยวข้องกับทัวร์ศูนย์เหรียญจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด โดยเชื่อมั่นว่า ทางการจีนจะร่วมมือกับไทยในการแก้ไขปัญหานี้ร่วมกันอย่างจริงจัง เพราะที่ผ่านมาทัวร์ศูนย์เหรียญส่งผลกระทบต่อคุณภาพการให้บริการ ภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ตัวนักท่องเที่ยวเอง และอีกหลายด้าน พร้อมทั้งกำชับให้ตรวจสอบด้วยว่ามีหน่วยงานใดของไทยที่รู้เห็นเป็นใจ หรือละเลยการปฏิบัติหน้าที่จนเป็นเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้ด้วยหรือไม่
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บและครอบครัวของผู้ประสบภัยที่โรงพยาบาล อบจ. ภูเก็ต และโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต พร้อมมอบกระเช้าดอกไม้ กระเช้าผลไม้ให้กับผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วย และแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมให้กำลังใจและสอบถามผู้ได้รับผลกระทบ และยืนยันว่า รัฐบาลพร้อมดูแลอย่างเต็มที่ เพราะเข้าใจถึงความรู้สึกของทุกคนที่ได้รับความสูญเสีย เพราะตนเองก็เคยสูญเสียมาก่อน อีกทั้งชาวจีนและชาวไทยถือเป็นพี่น้องและครอบครัวเดียวกัน
นายกรัฐมนตรียังได้กำชับเจ้าหน้าที่และแพทย์ให้ดูแลผู้ป่วยทุกคนอย่างดีที่สุด ส่วนการส่งศพของผู้เสียชีวิตกลับประเทศ รัฐบาลพร้อมช่วยเหลือดำเนินการให้หลังจากตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลเรียบร้อยแล้วจะดำเนินการส่งกลับให้ทันที โดยเครื่องบิน C130
อ้างอิง: ศูนย์ข้อมูลประชาสัมพันธ์ร่วม กรมประชาสัมพันธ์