ภายหลังการล่มอย่างไม่มีสาเหตุของ Facebook, Instagram และ WhatsApp ทำให้ความมั่งคั่งของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ลดลงทันที 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2 แสนล้านบาท ภายใน 1 วันเท่านั้น
สาเหตุที่ทำให้ความมั่งคั่งของซักเคอร์เบิร์กลดลงอย่างฮวบฮาบเกิดจากแรงเทขายหุ้นของนักลงทุน ทำให้หุ้นของ Facebook ลดลง 4.9% ในวันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม (ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ) แต่หากนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกันยายนเป็นต้นมา พบว่าหุ้นของ Facebook ลดลงกว่า 15% ด้วยกัน
ความมั่งคั่งที่สูญไปทำให้ตัวซักเคอร์เบิร์กหล่นจากตำแหน่งในทำเนียบบุคคลที่ร่ำรวยของโลกด้วย ตามดัชนี Bloomberg Billionaires ระบุว่า ซักเคอร์เบิร์กมีความมั่งคั่งอยู่ที่ 1.216 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจาก 1.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ตัวเขาตกลงมาอยู่ในอันดับที่ 5 ตามหลัง บิล เกตส์ แล้ว
อย่างไรก็ตามหลัง 6 ชั่วโมงที่จู่ๆ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในเครือของ Facebook ใช้การไม่ได้ ล่าสุดนั้นทุกอย่างเริ่มกลับมาปกติแล้ว
Facebook ไม่เปิดเผยว่าเกิดอะไรขึ้น โดยออกแถลงการณ์ที่ขออภัยผู้ใช้งาน และบอกว่า “เราทำงานอย่างหนักเพื่อกู้คืนการเข้าถึงแอปฯและบริการของเรา และยินดีที่จะรายงานว่าพวกเขากำลังกลับมาออนไลน์ในขณะนี้ ขอบคุณที่อดทนกับเรา”
ด้านรายงานบน Downdetector.com แสดงให้เห็นว่าการหยุดทำงานดูเหมือนจะเป็นวงกว้าง แต่ก็ไม่ชัดเจนว่ามีผู้ใช้จำนวนเท่าใดที่ไม่สามารถเข้าถึงแอปฯ ได้ ขณะที่ ThousandEyes ซึ่งเป็นบริการตรวจสอบเครือข่ายของ Cisco กล่าวในอีเมลว่า การหยุดทำงานเป็นผลมาจากความล้มเหลวของ DNS หรือ Domain Name System
การหยุดทำงานของ Facebook ถือเป็นการหยุดทำงานที่ยาวนานที่สุดสำหรับ Facebook นับตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งข้อบกพร่องทำให้เว็บไซต์ออฟไลน์เป็นเวลาประมาณหนึ่งวัน ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ประมาณ 80 ล้านคน ปัจจุบันแพลตฟอร์มนี้มีผู้ใช้ 3 พันล้านคน
ภาพ: Johannes Simon/Getty Images
อ้างอิง: