Facebook ได้ประกาศแบนบัญชีกองทัพทหารเมียนมา (Tatmadaw) สื่อและเพจที่ถูกควบคุมโดยกองทัพในทุกๆ ช่องทางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยให้มีผลทันที ซึ่งจะทำให้กองทัพเมียนมาไม่สามารถเข้าถึงการใช้งานบนแพลตฟอร์ม Facebook และ Instagram ได้ นอกจากนี้เพจหรือหน่วยงานใดๆ ก็ตามก็จะไม่สามารถซื้อบูสต์โพสต์โฆษณาที่เกี่ยวข้องกับกองทัพทหารอีกด้วย
Facebook ระบุผ่านแถลงการณ์ว่า “เรายังคงรับมือกับสถานการณ์ในเมียนมาในรูปแบบของสถานการณ์ฉุกเฉิน และยังคงให้ความสำคัญกับประเด็นความปลอดภัยของชุมชนผู้ใช้งานและชาวเมียนมาในวงกว้าง
“โดยนับตั้งแต่ที่เกิดเหตุรัฐประหารตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น ซึ่งมีส่วนสำคัญที่นำไปสู่การตัดสินใจแบนในครั้งนี้ เราเชื่อว่าความเสี่ยงในการปล่อยให้กองทัพทหารเมียนมาใช้งาน Facebook และ Instagram ต่อไปนั่นเป็นเรื่องที่ยากเกินไป”
สำหรับการตัดสินใจแบนบัญชีผู้ใช้งานกองทัพทหารเมียนมาและบัญชีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในครั้งนี้ถือเป็นการ ‘แบนอย่างไม่มีกำหนด’ นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการลบคอนเทนต์ใดๆ ก็ตามของเพจในกลุ่มที่เกี่ยวข้องที่เข้าข่ายการละเมิดกฎของแพลตฟอร์ม โดยยังได้ขยายความเพิ่มเติมอีกว่า สาเหตุที่นำไปสู่การแบนเพจกองทัพเมียนมาร์นั้นประกอบด้วย 4 ปัจจัย ดังนี้
- กองทัพเมียนมามีประวัติการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ชัดเจน รวมถึงยังเป็นความเสี่ยงที่จะนำไปสู่ความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
- กองทัพเมียนมามีประวัติและพฤติกรรมการโพสต์เนื้อหาบนแพลตฟอร์มที่ฝ่าฝืนมาตรการของเรา และทำให้เราจำเป็นจะต้องบังคับใช้นโยบายของเราเพื่อปกป้องชุมชนผู้ใช้งานของเรา
- นับตั้งแต่ที่เกิดเหตุรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ บัญชีของกองทัพและบัญชีผู้ใช้งานที่เชื่อมโยงเกี่ยวข้องมีความพยายามที่จะดำเนินการสร้างโครงข่ายที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ละเมิดนโยบายแพลตฟอร์มขึ้นมาใหม่ ทั้งๆ ที่เราได้ดำเนินการลบเนื้อหาเหล่านั้นไปแล้ว
- ด้วยพฤติกรรมข้างต้นเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึง ‘ความอันตราย’ ของกองทัพเมียนมาที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้ภัยคุกคามบนโลกออนไลน์ในครั้งนี้นำไปสู่เหตุการณ์ความรุนแรงใดๆ ก็ตามที่อาจจะเกิดขึ้นในโลกออฟไลน์
อย่างไรก็ดี Facebook ยืนยันว่าการแบนในครั้งนี้จะไม่ครอบคลุมเพจหรือหน่วยงานใดๆ ก็ตามของรัฐบาลที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการให้บริการในด้านสาธารณะที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนผู้ใช้งาน ตลอดจนกระทรวงสุขภาพการกีฬาและกระทรวงการศึกษา โดยจะดำเนินการติดตามสถานารณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด พร้อมออกมาตรการใดๆ ที่จำเป็นอย่างทันท่วงทีเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานปลอดภัย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: