เทรนด์การต่อขนตาเริ่มเป็นที่นิยมในหมู่คนไทยมากขึ้น ก่อนหน้าที่จะฮิตในบ้านเรา เทรนด์นี้เป็นนิยมในกลุ่มชาวญี่ปุ่นมาก่อน ด้วยผลลัพธ์ที่ช่วยทำให้ดวงตาโดดเด่นโดยไม่ต้องปัดมาสคาร่า สร้างความสะดวกให้การแต่งหน้าง่ายและเร็วขึ้น แม้การต่อขนตาจะเต็มไปด้วยข้อดี แต่ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียเลย ต่อไปนี้คือสิ่งที่ผู้เขียนในฐานะบรรณาธิการความงามอยากนำประสบการณ์ต่อขนตามาแชร์ต่อเพื่อเช็กตัวเองว่าเหมาะจะต่อขนตาหรือไม่ เมื่อเปรียบเทียบทั้งข้อดีและข้อเสียที่เราลิสต์มาดังนี้
ข้อดี
- ใครมีปัญหาขนตาสั้น ดัดขนตาด้วยที่ดัดขนตาทีไรแล้วรู้สึกว่าไม่เวิร์ก แม้จะใช้มาสคาร่ารุ่นที่ต่อเส้นขนตาด้วยไฟเบอร์ก็ยังไม่ตอบโจทย์อยู่ดี การต่อขนตาจะช่วยตัดปัญหานี้ได้ ทำให้คุณมีขนตาที่งอนเด้งทุกวัน
- การต่อขนตาช่วยประหยัดเวลาในการแต่งหน้า เพราะสามารถข้ามขั้นตอนในการปัดมาสคาร่าไปได้เลย แค่ตื่นมาก็มีขนตาที่สวยเด้งแบบไม่ต้องดัดหรือปัดมาสคาร่า
- ใครที่เชื่อเรื่องโหงวเฮ้งบนใบหน้า การต่อขนตาเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถปรับโหงวเฮ้งของใบหน้าให้ดูดีและโดดเด่นได้ ช่วยแก้ปัญหาตาตกหรือโหงวเฮ้งไม่ดี
- การต่อขนตาช่วยปรับลุคให้ใบหน้าดูหวานขึ้นอัตโนมัติ แม้จะไม่แต่งหน้าเลย แต่การมีขนตาที่งอนสวยอย่างเป็นธรรมชาติตลอดเวลาจะช่วยยกระดับให้ใบหน้าดูดีแบบไม่ต้องพยายาม
- สำหรับคนที่ชอบออกกำลังกาย หมดกังวลเรื่องการหลุดของขนตา เพราะกาวที่ใช้ต่อขนตานั้นมีประสิทธิภาพในการกันน้ำกันเหงื่อได้ดี แต่การดูแลรักษาขนตาให้งอนเด้งเหมือนเดิมนั้นต้องคอยแปรงขนตาให้อยู่ทรงอยู่เสมอ
ข้อเสีย
- หลังต่อขนตาอาจรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติเหมือนเดิม บางคนจะรู้สึกเหมือนมีอะไรบังตาหรือรบกวนสายตาตลอดเวลา
- หากเผลอกะพริบตาแรงๆ หรือเผลอขยี้ตาจะทำให้รู้สึกเจ็บเหมือนมีอะไรมาทิ่มเปลือกตา ซึ่งสร้างความรำคาญไม่น้อย
- เมื่อต่อขนตาแล้ว การล้างหน้าด้วยออยล์หรือคลีนซิ่งบาล์มจะทำไม่ได้เลย เพราะการใช้ออยล์ล้างหน้าจะเสี่ยงในการหลุดล่อนของขนตา ทำให้ไม่ติดทนนาน
- เมื่อใช้อายไลเนอร์ ต้องระวังในการเช็ดทำความสะอาดบริเวณเปลือกตาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า เพราะขยี้หนักไปก็จะรู้สึกเจ็บหรือระคายเคือง แต่ถ้าเช็ดเบาไป อายไลเนอร์ก็จะออกไม่หมด ทำให้การลบเครื่องสำอางไม่สะอาดหมดจด
- ขนตาจริงอาจเสี่ยงต่อการหลุดหรือขาดได้หากมีการดึงหรือเช็ดขนตาที่รุนแรงเกินไป จึงค่อนข้างต้องใช้ความใส่ใจในการดูแลเป็นอย่างดี
ภาพ: Shutterstock
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์