วันนี้ (31 พฤษภาคม) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังการลงมติพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงินทั้ง 3 ฉบับ โดยกล่าวว่า ตนและรองนายกรัฐมนตรีได้อภิปรายให้รายละเอียดไปแล้ว งบประมาณที่กู้มามีมาตรการการใช้อย่างไร ขั้นตอนต่อจากนี้คือการคัดกรองโครงการ ซึ่งมีการคัดกรองในระดับหนึ่งแล้ว ประชาชนตรวจสอบได้ว่ามีความเป็นไปได้อย่างไร หากพบความผิดปกติก็ร้องทุกข์กล่าวโทษได้ ทุกอย่างว่าไปตามกฎหมาย
ส่วนข้อเสนอของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จะมีการขอตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบการใช้งบประมาณของ พ.ร.ก. 3 ฉบับนั้น พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า ถือเป็นการตั้งกติกา ซึ่งเป็นเรื่องของวาระต่อไป ตนไม่ขัดข้องและไม่คัดค้าน หากทำให้ทุกอย่างดีขึ้น น่าไว้วางใจมากขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องไม่ทำให้เกิดความล่าช้า
ทั้งนี้ ในส่วนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) ก็เตรียมที่จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบการใช้จ่ายเงินในครั้งนี้ด้วย เพราะการกู้เงินในสภาวะแบบนี้ไม่เคยมีขึ้นมาก่อน เป็นการกู้เงินเพื่อนำมาช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเป็นคนละแบบกับในอดีตที่เป็นการกู้เงินเพื่อลงทุนต่างๆ พร้อมยืนยันว่า สถานการณ์การเงินของประเทศตอนนี้ยังเข้มแข็ง
พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ต้องช่วยกันทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ต้องเดินไปข้างหน้า เข้าใจว่าทุกคนหวังดีต่อประเทศชาติ แต่วิธีการคิดไม่ตรงกัน ฝ่ายค้านก็ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบ แต่บางทีก็สามารถร่วมมือกันเพื่อประชาชนในลักษณะการทำงานแนวใหม่ที่ทุกคนต้องการก็ได้ เป็นการเดินหน้าการทำงานแบบ New Normal และเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ
นอกจากนี้ พล.อ. ประยุทธ์ ยังได้พูดถึงวันดีเดย์ 1 มิถุนายนนี้ ที่จะเริ่มมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 3 โดยบอกว่า ยังคงอยากให้ทุกคนปฏิบัติตนตามมาตรการสาธารณสุข เพื่อช่วยกันหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งหากประชาชนทุกคนไม่ให้ความร่วมมือ หรือสถานการณ์ไม่ดีขึ้น รัฐบาลก็มีความจำเป็นที่จะต้องกลับมาเริ่มใช้มาตรการใหม่อีกครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดซ้ำ ยืนยันว่า ไม่ได้คิดรวมอำนาจไว้ที่ตัวเองให้นานที่สุด แต่เป็นการใช้อำนาจทางบริหารในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อรักษากฎระเบียบบ้านเมือง ขณะที่รัฐบาลก็ตอบสนองประชาชนด้วยวิธีการที่ถูกต้องตามกฎหมาย
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
