ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET) เปิดสัปดาห์ (25 มกราคม 2564) พลิกกลับมายืนเหนือระดับ 1,500 จุดอีกครั้ง ปิดที่ 1,501.62 จุด +3.74 จุดจากสัปดาห์ก่อน โดยหลักดัชนีได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน พาณิชย์ และอาหาร
ในขณะเดียวกันหุ้นที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกยังคงโดดเด่นต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยเฉพาะ 3 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ ถุงมือยาง และอาหาร ส่วนหนึ่งได้อานิสงส์จากการเร่งเติมสต๊อกสินค้าทั่วโลก
หุ้นที่ปรับขึ้นโดดเด่นในวันนี้ (25 มกราคม) คือ บมจ.เอสวีไอ (SVI) เพิ่มขึ้น 14.71% รองลงมา บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE) เพิ่มขึ้น 6.42% บมจ.แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) เพิ่มขึ้น 5% บมจ.ซีเฟรชอินดัสตรี เพิ่มขึ้น 4.05% บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) (STGT) เพิ่มขึ้น 3.77% และ บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) เพิ่มขึ้น 3.52% จะมีเพียงหุ้น บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) ที่ปรับลดลง 7.35%
ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า แรงเก็งกำไรต่อเนื่องในหุ้นกลุ่มส่งออกทำให้หุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงหุ้นส่งออกอาหาร ถุงมือยาง รวมถึงสินค้าที่ได้ประโยชน์จากการล็อกดาวน์ในหลายประเทศ ยังคงรักษาการเติบโตไว้ได้
อย่างไรก็ตาม การเลือกลงทุนในหุ้นเหล่านี้อาจจะต้องเลือกเป็นรายตัว (Selective) โดยมองหุ้นที่มูลค่ายังไม่สูงมากนัก ซึ่งเรามองว่าเป็นกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับยางพาราและถุงมือยาง โดยปัจจัยที่ต้องระมัดระวังในอนาคตคือ การแข็งค่าของเงินบาทที่อาจจะเข้ามากระทบส่วนของอัตรากำไรและความสามารถในการแข่งขัน
สำหรับกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งราคาหุ้นปรับขึ้นมาต่อเนื่อง ปัจจุบันถือว่ามูลค่าค่อนข้างแพง อย่างการประเมินด้วย P/E ปัจจุบันเทียบกับอดีต 3 ปีย้อนหลัง สูงถึงระดับ +2SD
ขณะที่การฟื้นตัวของดัชนี SET กลับมายืนเหนือระดับ 1,500 จุดในวันนี้ ส่วนตัวมองว่าไม่ได้มีนัยสำคัญเท่าใดนัก โดยดัชนี SET ยังไม่มีทิศทางชัดเจน ขณะที่ปัจจัยบวกและปัจจัยลบก็ไม่มีน้ำหนักมากนัก ทำให้ภาพของตลาดตลอดทั้งสัปดาห์น่าจะเป็นลักษณะสลับขึ้นลงและหมุนเวียนกลุ่มหุ้นลงทุน ทั้งนี้ ประเมินกรอบดัชนี 1,470-1,530 จุด
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล