ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนเมษายน 2563 อยู่ที่ 47.2 ซึ่งปรับตัวลดลงต่อเนื่องต่ำสุดในรอบ 295 เดือน หรือ 21 ปี 7 เดือน ด้านดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมเดือนเมษายน 2563 อยู่ที่ 39.2 ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบประมาณเกือบ 22 ปี
โดยภาพรวมเศรษฐกิจถูกกดดันต่อเนื่องจากปัจจัยลบ ความวิตกการแพร่ระบาดโควิด-19, การใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และปิดสถานที่ต่างๆ, ปัญหาภัยแล้งอาจกระทบการเกษตร, เงินบาทอ่อนค่า และผู้บริโภคมีมุมมองต่อเศรษฐกิจว่ายังฟื้นตัวได้ช้าและกระจุกตัว รวมถึงรายได้ปัจจุบันไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น
ทั้งนี้คาดว่าเศรษฐกิจช่วงเดือนเมษายนเป็นจุดต่ำสุดแล้ว เพราะปัจจุบันภาคเอกชนเริ่มกลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง ซึ่งการรีสตาร์ทธุรกิจได้เร็วจะช่วยชะลอการปลดคนงานได้ดีและไม่กระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจมากเกินไป นอกจากนี้การที่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาได้คาดการณ์ว่า GDP น่าจะติดลบ 3-5% และไทยจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวในช่วงไตรมาสที่ 3 และจะกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ช่วงไตรมาส 4
สำหรับการปลดล็อกดาวน์ในช่วงเฟสแรก ซึ่งทำให้ภาคธุรกิจบางส่วนเริ่มกลับมา คาดว่าเม็ดเงินจะเริ่มไหลกลับมาทั้งประเทศเฉลี่ย 2,000-3,000 ล้านบาทต่อวัน หรือจะช่วยหนุนให้เม็ดเงินกลับเข้ามาในระบบเศรษฐกิจประมาณ 6-9 หมื่นล้านบาทต่อเดือน
และช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้ หากสามารถปลดล็อกดาวน์ได้รอบ 2 ซึ่งคาดว่าจะครอบคลุมกิจกรรมทางเศรษฐกิจสูงประมาณ 75-80% จะช่วยหนุนให้เม็ดเงินกลับเข้ามาในระบบเศรษฐกิจเป็น 6-8 พันล้านบาทต่อวัน ทำให้ระบบเศรษฐกิจมีเม็ดเงินไหลกลับเข้ามาประมาณเกือบ 2 แสนล้านบาทต่อเดือน ซึ่งจะเห็นเศรษฐกิจฟื้นตัวได้
“ปกติประเทศไทยจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจประมาณ 2 หมื่นล้านบาทต่อวัน แต่พอล็อกดาวน์และความกังวลโควิด-19 ทำให้เงินหายไปประมาณ 1 หมื่นล้านบาทต่อวัน แต่พอเริ่มเปิดล็อกดาวน์เฟสแรก ซึ่งธุรกิจ SME เป็นสำคัญ คาดว่าเม็ดเงินจะกลับมาเดือนละประมาณ 6-9 หมื่นล้านบาท และถ้าเปิดล็อกดาว์เฟส 2 ช่วง 17 พฤษภาคมนี้ จะช่วยหนุนเม็ดเงินกลับเข้ามาประมาณเกือบ 2 แสนล้านบาทต่อเดือน” ธนวรรธน์ กล่าว
โดยจังหวะการรีสตาร์ทธุรกิจเป็นปัจจัยสำคัญ หากสามารถเปิดได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป และหลังจากภาครัฐเข้ามาเยียวยาเศรษฐกิจ เช่น เงิน 5,000 บาทแก่ประชาชน 16 ล้านคน คาดว่าในช่วงไตรมาสที่ 3/2563 รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และคาดว่า Soft Loan ของรัฐบาลที่เตรียมไว้ 4 แสนล้านบาทจะเริ่มเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
รวมถึง พ.ร.ก. ฉุกเฉินจะเริ่มคลายได้ ซึ่งชาวต่างชาติจะสามารถเดินทางเข้ามาในประเทศ และหากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งโลกดีขึ้น คาดว่าไตรมาสที่ 4/2563 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มกลับมา 6 ล้านคน หรือเดือนละประมาณ 2 ล้านคน ขึ้นอยู่กับมาตรการจากภาครัฐ
รายงาน ชุติมา อภิชัยสุขสกุล
ติดตามข่าวสารการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่: www.efinancethai.com
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า