กรมสรรพสามิตยืนยันเหตุเพลิงไหม้ไม่กระทบเอกสารสำคัญ หลังยกระดับสู่องค์กรดิจิทัล สำหรับสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ยังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบและพิสูจน์หลักฐาน
วันนี้ (6 มิถุนายน) เกรียงไกร พัฒนาภรณ์ รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า “ตามที่มีการสื่อสารข้อมูลกันในสื่อโซเชียลมีเดียในประเด็นว่ามีผู้ได้ยินเสียงระเบิด และเหตุเพลิงไหม้ที่ชั้น 3 อาคารกรมสรรพสามิต เกิดในบริเวณห้องเก็บเอกสารลับนั้น เป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริง โดยในข้อเท็จจริงบริเวณที่เกิดเหตุเป็นห้องส่วนวางแผนและพัฒนาคุณภาพการบริหารงาน สำนักแผนภาษี ซึ่งรับผิดชอบงานด้านยุทธศาสตร์ของกรมสรรพสามิต”
พร้อมทั้งยืนยันว่าเหตุการณ์ครั้งนี้แม้ว่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินทางราชการและเอกสารบางส่วน แต่ไม่สร้างความเสียหายด้านข้อมูล และไม่กระทบกับการดำเนินงานของกรมสรรพสามิต เนื่องจากกรมสรรพสามิตได้ยกระดับการทำงานด้วยการบันทึกเอกสารทั้งหมดไว้ในรูปแบบไฟล์ดิจิทัลไว้แล้ว
กรมสรรพสามิตระบุอีกว่า ภายใต้การบริหารงานของ ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต กรมสรรพสามิตได้ประกาศและเดินหน้ายุทธศาสตร์พัฒนาองค์กรให้ทันสมัยและเท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก ด้วยการยกระดับสู่องค์กรดิจิทัล (Digital Transformation) โดยการบูรณาการระบบเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับกระบวนการทำงานอย่างเป็นระบบ มีการเชื่อมโยงในส่วนของกระบวนการทำงาน ข้อมูลที่ใช้ในการปฏิบัติงาน ระบบงานสารสนเทศ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐาน เข้ากันอย่างไร้รอยต่อระหว่างโลกดิจิทัลและโลกแห่งความเป็นจริง และสร้างต้นแบบหน่วยงานบริการแบบไร้กระดาษ (Paperless) เพื่อจัดเก็บเอกสารราชการต่างๆ ในรูปแบบไฟล์ดิจิทัล สะท้อนการเป็นองค์กรที่มุ่งสู่การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการดำเนินการสู่ความยั่งยืน
ดังนั้นเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จึงไม่เกิดผลกระทบต่อกระบวนการดำเนินงานของกรมสรรพสามิต และไม่สร้างความเสียหายแก่ข้อมูลของประชาชน ผู้ประกอบการ หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ และกรมสรรพสามิตยังสามารถเปิดทำการได้ตามปกติ
สำหรับสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ยังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบและพิสูจน์หลักฐาน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรและทำให้เกิดเสียงดังคล้ายระเบิด โดยจะแจ้งข้อเท็จจริงให้ทราบต่อไป