เปิดศักราชอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยได้ไม่สวย! เมื่อสภาวะตลาดยังทรุดต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 3 ‘ส.อ.ท.’ ชี้คนไทยกู้รถยากขึ้น EV จีนแย่งตลาดส่งออกประเทศคู่ค้า หวั่นทรัมป์ขึ้นภาษีอีก 25% ส่งผลให้เดือนมกราคม 68 ยอดผลิตร่วงหนัก 24.63% ต่ำสุดรอบ 33 เดือน แนะรัฐเร่งออกมาตรการช่วยเหลือค้ำประกันการปล่อยสินเชื่อ ช่วยฟื้นเศรษฐกิจ
สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การผลิตรถยนต์ทั้งหมดของเดือนมกราคม 2568 รวม 107,103 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของเดือนมกราคม 2567 ที่ 24.63% เนื่องจากการผลิตเพื่อขายในประเทศลดลง 31.78% ตามยอดขายที่ลดลง และผลิตส่งออกลดลง 21.10% ตามยอดส่งออกที่ลดลง
ขณะที่การผลิตเพื่อส่งออกเดือนมกราคม 2568 ผลิตได้ 75,044 คัน เท่ากับ 70.07% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ที่ 21.10% ในขณะทีการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเดือนมกราคม 2568 ผลิตได้ 32,059 คัน เท่ากับ 29.93% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ที่ 31.78%
ส่วนยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนมกราคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 48,092 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 อีก 12.26%
“ยอดขาย ยอดผลิต ที่ลดยังคงมาจาก สถาบันการเงินยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อจากหนี้ครัวเรือนสูง และเศรษฐกิจในประเทศปี 2567 ขยายตัวในอัตราต่ำที่ 2.5% ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมยังคงลดลงโดยเฉพาะผลผลิตยานยนต์ที่มีอุตสาหกรรมต่อเนื่องมากลดลง แรงงานจำนวนมากมีรายได้ลดลง ทำให้ใช้จ่ายลดลง ส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวในอัตราต่ำ หลายโรงงานเริ่มปรับไลน์ผลิต หันมาผลิตไฮบริด ซึ่งไฮบริดถือว่าขายดี ”
จับตาทรัมป์ขึ้นภาษีรถยนต์ 25%
ประกอบกับที่น่าห่วงคือ การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เดือนมกราคม 2568 ส่งออกได้เพียง 62,321 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ที่ 28.13% ถือเป็นตัวเลขที่ต่ำสุดในรอบ 33 เดือน
“ความกังวลเรื่องสงครามการค้าที่สหรัฐอเมริกาเตรียมขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ โดยล่าสุดทรัมป์เตรียมขึ้นภาษีรถยนต์อีก 25% จึงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีการตอบโต้มากน้อยเพียงใด เมื่อบวกกับการส่งออกของรถยนต์ไฟฟ้าจีน ราคาถูก เข้ามาแข่งขันมากขึ้นทั้งในไทยและประเทศคู่ค้า”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
รวมถึงรถยนต์ส่งออกบางรุ่นกำลังจะเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ และจากเดือนธันวาคมมีวันหยุดมาก บางบริษัทเปิดทำการช้าในเดือนมกราคม จึงผลิตได้น้อย ทำให้เดือนมกราคมมีรถส่งออกได้น้อยลง ในตลาดคู่ค้าหลักอย่างออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกากลาง และอเมริกาใต้”
วิกฤตอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเข้าสู่ปีที่ 3 ยังไม่ฟื้น!
ส่วนยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนมกราคม 2568 จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 14,711 คัน ลดลงจากเดือนมกราคมปีที่แล้ว 7.73% ขณะที่ยอดจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 31 มกราคม 2568 จดทะเบียนสะสมรวมทั้งสิ้น 242,076 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 63.85%
สุรพงษ์ระบุว่า “ยอมรับว่า อุตสาหกรรมยานยนต์วันนี้ ต้นปีก็ยังถือว่า เข้าขั้นวิกฤติ น่าเป็นห่วง ตั้งแต่ต้นปีมา ก็ยังไม่ฟื้นตัว ซึ่งภาวะนี้ลากยาวมาตั้งแต่ปี 2566-2567 จนถึงปีนี้ 2568 ก็ยังน่าเป็นห่วง เพราะสถาบันการเงิน ยังเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อก็ส่งผลกระต่อยอดผลิต และยอดขาย ทั้งรถกระบะ รถเก๋ง รวมถึงยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ราคาก็ยังไม่นิ่ง จากการแข่งขันการทำราคา การบริการต่างๆ ทำให้ผู้บริโภคยังไม่กล้าตัดสินใจซื้อ”
ทั้งนี้ ขอให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นผู้ค้ำประกันสินเชื่อรถกระบะ เพื่อกระตุ้นยอดซื้อรถใหม่ ให้เร็วขึ้น
“จากเดิม 4 เดือน ผมมองว่า ช้าเกินไป ขอเป็นภายใน 2 เดือน เนื่องจากการผลิตรถกระบะใช้แรงงานเป็นจำนวนมาก หากแรงงานมีรายได้ก็จะไปจับจ่ายใช้สอย มีกำลังซื้อ และอุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งมีซัพพลายเชนจำนวนมากก็พลอยได้อานิสงส์”
ภาพ: Costfoto/NurPhoto via Getty Images