The New York Times รายงานว่ากลุ่มแฮกเกอร์ได้ลักลอบจารกรรมข้อมูลการสื่อสารทางการทูตของสหภาพยุโรป (EU) เป็นเวลานานถึง 3 ปี โดยประเด็นการสื่อสารที่ถูกแฮกครอบคลุมตั้งแต่เรื่องที่เกี่ยวกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ไปจนถึงข้อมูลการค้าทั่วโลก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ EU ยืนยันว่าข้อมูลที่เป็นความลับหรือเอกสารสำคัญไม่ได้ถูกแฮกแต่อย่างใด
การรั่วไหลของข้อมูลถูกพบครั้งแรกโดยบริษัทด้านความปลอดภัยของระบบไซเบอร์อย่าง Area 1 ประกอบด้วยข้อความโทรเลขทางการทูตหลายพันข้อความ ซึ่งรวมถึงข้อความสนทนาที่ระบุว่าซัมมิตระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา “เป็นการประชุมที่ประสบความสำเร็จ อย่างน้อยก็สำหรับปูติน”
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลโทรเลขที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการประชุมระหว่างประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ EU ในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการอ้างคำพูดของสีจิ้นผิงที่บอกว่าจีนจะไม่ยอมถูกสหรัฐฯ ข่มเหง แม้ว่าสงครามการค้าจะสร้างความเสียหายให้กับทุกฝ่ายก็ตาม
ด้านผู้เชี่ยวชาญความมั่นคงทางไซเบอร์แสดงความเห็นกับ The New York Times ว่าวิธีการที่กลุ่มแฮกเกอร์ใช้ในการล้วงข้อมูลมีความคล้ายคลึงกับที่กองทัพจีนเคยใช้มาก่อนหน้านี้
“หลังจากที่เคยรับมือกับปฏิบัติการทางไซเบอร์ของจีนมานานกว่า 1 ทศวรรษ จึงไม่มีข้อสงสัยเลยว่าการแฮกข้อมูลครั้งนี้อาจเกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน” ผู้เชี่ยวชาญเผย
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: