6 สโมสรยักษ์ใหญ่ของอังกฤษที่รู้จักกันในนาม ‘Big Six’ ตัดสินใจทยอยถอนตัวจากการเข้าร่วมรายการยูโรเปียซูเปอร์ลีกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่เกิดกระแสต่อต้านอย่างรุนแรงทั่วประเทศ
จากการที่ 6 สโมสรพรีเมียร์ลีก ได้แก่ อาร์เซนอล, เชลซี, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ได้ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมรายการยูโรเปียนซูเปอร์ลีก รายการฟุตบอลระดับทวีปรายการใหม่ร่วมกับอีก 6 สโมสรยักษ์ใหญ่คือ เอซี มิลาน, อินเตอร์ มิลาน, ยูเวนตุส, เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา และแอตเลติโก มาดริด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (18 เมษายน) ทำให้เกิดกระแสโจมตีอย่างรุนแรงในวงการฟุตบอลอังกฤษ
เหตุผลเนื่องมาจากรายการใหม่ดังกล่าวนั้นมีความไม่ปกติหลายประการ โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นการแข่งขันในระบบปิด ไม่มีการเลื่อนชั้นหรือตกชั้น มีจำนวนสมาชิกถาวร 15 ทีม และทีมที่จะรับเชิญอีก 5 ทีม ซึ่งแม้จะยืนกรานว่าเจตนานั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานความคิดที่ว่าแฟนฟุตบอลจะได้ชมเกมระดับสุดยอดของโลกอย่างสม่ำเสมอ แต่สิ่งที่สังคมฟุตบอลมองคือ ทุกอย่างอยู่บนผลประโยชน์ทางการเงินที่สโมสรเหล่านี้คาดหวังว่าจะได้รับอย่างมากมายมหาศาล โดยแค่เงินก้อนแรกที่เป็น ‘โบนัส’ จาก J.P. Morgan บริษัทหลักทรัพย์ระดับโลกก็สูงถึงทีมละ 200-300 ล้านปอนด์ ไม่นับเงินส่วนแบ่งของการแข่งขัน
ยูโรเปียนซูเปอร์ลีกจึงถูกประณามจากโลกฟุตบอลอย่างรุนแรงในฐานะตัวการที่ทำลายรากฐานที่ดีของเกมกีฬาที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในโลก และจะทำลายระบบทุกอย่างที่ถูกสร้างมายาวนานกว่าร้อยปี ไปจนถึงทำลายเกมฟุตบอลในระดับรากหญ้า และข้อหาที่ร้ายแรงที่สุดคือการทำลายความฝันของแฟนฟุตบอลและนักฟุตบอลทุกคน
การต่อต้านทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมากในวันอังคารที่ผ่านมา (20 เมษายน) โดยเริ่มมีนักฟุตบอลและอดีตนักฟุตบอลที่แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงเสียงที่ทรงพลังอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่อยู่ในกลุ่ม 12 สโมสรดังกล่าว ซึ่งบอกว่าซูเปอร์ลีกไม่ใช่เกมกีฬาอีกต่อไป ขณะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมลิเวอร์พูลได้ขอนัดประชุมกับกัปตันทีมพรีเมียร์ลีกทุกสโมสร โดยที่พรีเมียร์ลีกเองมีการเรียกประชุมเป็นกรณีฉุกเฉินและมีมติจาก 14 สโมสรที่เหลือว่าจะคัดค้านถึงที่สุด
ด้านแฟนฟุตบอลทั่วประเทศอังกฤษก็ต่อต้านอย่างหนัก โดยเริ่มจากในเกมที่ลีดส์ ยูไนเต็ดพบลิเวอร์พูลเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา จนถึงเมื่อคืนนี้ ซึ่งเชลซีลงสนามพบไบรท์ตัน ได้มีแฟนฟุตบอลจำนวนมากออกมาประท้วงกลางถนนในช่วงก่อนเกม ขวางทางรถบัสของทีม จน ปีเตอร์ เช็ก อดีตผู้รักษาประตูที่เป็นผู้บริหารของสโมสรต้องลงมาช่วยไกล่เกลี่ยเพื่อขอให้รถไปส่งนักฟุตบอลที่สนามสแตมฟอร์ดบริดจ์
การลุกฮือในแบบเดียวกันยังมีทั่วประเทศอังกฤษ ซึ่งสุดท้ายแล้วได้นำไปสู่การตัดสินใจที่จะเปลี่ยนท่าทีของเหล่าสโมสรเหล่านี้ โดยเชลซีเป็นทีมแรกที่ขอถอนตัวออกจากขบวนการ ก่อนที่จะตามมาด้วยแมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, อาร์เซนอล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ทำให้ไม่มีสโมสรจากอังกฤษร่วมด้วยอีก ขณะที่อีก 6 สโมสรนั้นมีรายงานว่าบาร์เซโลนาและแอตเลติโก มาดริดพร้อมถอนตัว แต่ยังไม่มีการประกาศการตัดสินใจออกมาอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้มีแถลงการณ์จากยูโรเปียนซูเปอร์ลีกแจ้งสถานะของรายการว่า ‘ระงับ’ โดยออกแถลงการณ์ว่า “จากสถานการณ์ปัจจุบัน เราขอทบทวนการตัดสินใจในการหาทางที่ดีที่สุดในการจะปรับรูปแบบของรายการใหม่”
ทางด้าน เอ็ด วูดเวิร์ด รองประธานบริหารแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลาออกจากตำแหน่งทันที เช่นเดียวกับ อันเดรีย อัญเญลลี ประธานสโมสรยูเวนตุสที่พ้นจากตำแหน่งในสโมสรทันที และลิเวอร์พูลซึ่งเสียสปอนเซอร์อย่าง Tribus ผู้ผลิตนาฬิกา เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของเจ้าของสโมสร
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: