ข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับการโยกย้ายเงินผิดกฎหมายในธนาคารยักษ์ใหญ่ของโลกเป็นหนึ่งในปัจจัยที่กดดันดัชนี Stoxx 600 ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลง 3.2% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลง 5.7% ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ยังเป็นอีกปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นต่อเนื่อง โดยหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวร่วงลง 5.2% ซึ่งฉุดดัชนีโดยรวมปิดในแดนลบ
นักลงทุนจับตาหุ้นแบงก์ หลังมีรายงานว่าธนาคาร Standard Chartered และ HSBC มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล่อยให้มีการโยกย้ายเงินต้องสงสัยมาเป็นเวลากว่า 20 ปี โดยในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน หุ้น Standard Chartered ดิ่งลง 5.2% ขณะที่หุ้น HSBC ร่วง 4.9% โดยในระหว่างวันหุ้น HSBC ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 25 ปี
หลังมีข่าวออกมา Standard Chartered ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่าในความเป็นจริงมีคนพยายามฟอกเงินและหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบของธนาคารในการต่อสู้กับอาชญากรรมทางการเงินอย่างจริงจัง ขณะที่ HSBC ระบุว่าจะไม่ให้ความเห็นเกี่ยวกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมายในเวลานี้
ข้ามมาที่ฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ปรับตัวลงเช่นกัน โดยดัชนี Dow Jones ร่วง 509.72 จุด หรือ 1.8% ปิดที่ 27,147.70 จุด ขณะที่ Nasdaq ขยับลง 0.1% ปิดที่ 10,778.80 จุด ส่วน S&P 500 ปรับตัวลง 1.2% ปิดที่ 3,281.06 จุด ซึ่งเป็นการปิดลบติดต่อกัน 4 วันทำการครั้งแรกของ S&P 500 นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ โดยนักวิเคราะห์มองว่านักลงทุนวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่เลวร้ายลง บวกกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
ความกังวลเกี่ยวกับการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 เกิดขึ้นหลังมีรายงานว่ารัฐบาลสหราชอาณาจักรกำลังพิจารณาล็อกดาวน์อีกครั้งเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลอังกฤษเตือนว่าหากไม่ดำเนินมาตรการอะไรเพิ่มเติม อัตราการระบาดในประเทศอาจเพิ่มสูงถึง 50,000 รายต่อวัน โดยหุ้นกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบหนักที่สุดหากมีการล็อกดาวน์อีกรอบคือหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและสายการบิน ซึ่งเมื่อวานนี้หุ้น Carnival Corp. ดิ่งลงถึง 6.7% ขณะที่หุ้นสายการบิน Southwest Airlines และ Delta Air Lines ร่วง 5.8% และ 9.2% ตามลำดับ
หุ้นเหล่านี้กดดันตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยรวม โดยในระหว่างวันดัชนี Dow Jones ร่วงลงมากสุดกว่า 900 จุด ขณะที่ S&P 500 ดิ่งลงมากถึง 2.7%
แบรด คินเคอลาร์ นักวิเคราะห์จาก Barrow Hanley มองว่าเหตุผลที่นักลงทุนกังวลมากเพราะนี่เป็นปัญหาเฮลท์แคร์ และปัจจุบันก็ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรที่เป็นรูปธรรม เนื่องจากยังไม่มีวัคซีน และเวลานี้ทุกฝ่ายก็ยังหาทางรับมือกับวิกฤตนี้กันอยู่
นอกจากโควิด-19 แล้ว การเจรจาผลักดันร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ก็มีความซับซ้อนมากขึ้น หลัง รูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก ผู้พิพากษาศาลสูงสุดของสหรัฐฯ เสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยในเวลานี้คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามเร่งกระบวนการแต่งตั้งผู้พิพากษาคนใหม่ให้เสร็จสิ้นก่อนหน้าการเลือกตั้ง โดยทรัมป์ยืนกรานว่าเขาจะแต่งตั้งบุคคลที่จะมานั่งบัลลังก์แทนกินส์เบิร์กภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ โจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีและพรรคเดโมแครตคัดค้าน เพราะพวกเขากังวลว่าผู้พิพากษาคนใหม่อาจเป็นคนสายอนุรักษนิยมแบบเดียวกับสองคนที่ทรัมป์แต่งตั้งก่อนหน้านี้ ขณะที่กินส์เบิร์กเป็นผู้พิพากษาสายเสรีนิยมหรือลิเบอรัล
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- https://www.cnbc.com/2020/09/21/european-markets-banks-coronavirus-news-weigh-on-sentiment.html
- https://www.marketwatch.com/story/heres-how-key-swing-states-are-leaning-in-the-presidential-race-and-how-theyre-weathering-the-recession-11600708945?mod=home-page
- https://www.cnbc.com/2020/09/20/stock-market-futures-open-to-close-news.html