วันนี้เปิดประเดิมวันแรกของนัดรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายในค่ำคืนนี้ โดยทีมในกลุ่ม A จะได้ลงสนามเพียงแค่กลุ่มเดียวก่อน ทำให้อาจจะเป็นที่จับตามองของทีมกลุ่มอื่นๆ ที่อาจจะต้องมาพัวพันกับกลุ่มนี้ในรอบต่อไปซึ่งเป็นรอบน็อกเอาต์แล้ว อย่างกลุ่ม B กับ C เป็นต้น
โดยเกมทั้ง 2 คู่ในกลุ่ม A จะเล่นพร้อมกันในเวลา 23.00 น. โดยที่กรุงโรม อิตาลี จะพบกับเวลส์ และที่กรุงบากู เมืองหลวงของประเทศอาเซอร์ไบจาน จะเป็นเกมระหว่างสวิตเซอร์แลนด์พบตุรกี
ครั้งสุดท้ายที่อิตาลีมีโอกาสเก็บ 9 คะแนนเต็มครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี
อนาคตที่กำหนดเองของอิตาลี
อิตาลีมีคิวตัดสินตำแหน่งแชมป์ของกลุ่ม A ที่สตาดิโอ โอลิมปิโก กรุงโรม ในค่ำคืนนี้กับเวลส์ ทีมอันดับที่ 2 ของกลุ่ม โดยเกมนี้ โรแบร์โต มันชินี โค้ชของทีม สามารถเลือกได้เลยว่าต้องการเข้ารอบไปเป็นอันดับที่เท่าไร เพราะ ณ ตอนนี้ต่อให้หลายกลุ่มยังไม่ได้ลงสนาม แต่ก็สามารถคาดเดาได้คร่าวๆ แล้วว่าจะต้องเจอใครในรอบต่อไป หากเข้ารอบไปในฐานะที่ไม่เหมือนกัน
โดยทางเลือกแรกคือการจบด้วยตำแหน่งแชมป์กลุ่ม A จะเกิดขึ้นต่อเมื่ออิตาลีชนะหรือเสมอกับเวลส์ ซึ่งในทางเลือกนี้พวกเขาจะได้ไปอยู่ในสายบนเจอกับรองแชมป์กลุ่ม C ที่มีโอกาสจะเป็นยูเครนหรือออสเตรีย ส่วนในทางเลือกที่ 2 คือการจบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม A ทางเลือกนี้จะเกิดขึ้นต่อเมื่อพวกเขาพ่ายต่อเวลส์ โดยหากเป็นเส้นทางนี้ อิตาลีจะได้ไปอยู่ในสายล่าง และพบกับรองแชมป์กลุ่ม B ซึ่งมีโอกาสจะเป็นได้ทั้งเบลเยียม รัสเซีย และฟินแลนด์ ขึ้นอยู่กับผลการแข่งขัน
อย่างไรก็ตาม มีข่าวว่า ‘อิลซีที’ โรแบร์โต มันชินี เตรียมพักผู้เล่นอย่างน้อย 5 ตำแหน่ง โดยเฉพาะในกราบซ้ายอย่าง ลอเรนโซ อินซิเญ, เลโอนาร์โด สปินาซโซลา, จอร์โจ คิเอลลินี, ชิโร อิมโมบิเล รวมไปถึงมิดฟิลด์ตัวกลางก็น่าจะมีคนได้พักเช่นกัน โดยผู้เล่นที่จะได้ลงโอกาสคือ ฟรานเชสโก อาแชร์บี ที่จะได้เล่นแทนคิเอลลินีที่มีอาการบาดเจ็บ, เฟเดริโก คิเอซา, มาร์โก แวร์รัตติ, เอเมอร์สัน พัลเมรี และ อันเดรีย เบล็อตติ
อิตาลีไม่แพ้ใครมา 29 นัดติดต่อกัน ถ้าพวกเขายังไม่แพ้ต่อไปในการลงสนามนัดนี้ จะทำให้พวกเขาขึ้นไปทาบสถิติไม่แพ้ใคร 30 นัดที่พวกเขาเคยทำได้ระหว่างปี 1935-1939 โดยจนถึงปัจจุบันนี้พวกเขาไม่เสียประตูให้ใครติดต่อกันมาแล้ว 10 นัด รวมเวลา 965 นาทีด้วยกัน
เวลส์ตั้งเป้าที่จะเข้ารอบเป็นแชมป์ของกลุ่ม A ซึ่งต้องโค่นอิตาลีลงก่อน
ความมุ่งมั่นที่จะเล่นรอบต่อไปในสหราชอาณาจักรของเวลส์
แกเร็ธ เบล กัปตันทีมชาติเวลส์ ออกมายืนยันว่าการเจอกับอิตาลีในชั่วโมงนี้เป็นความท้าทายครั้งใหญ่ แต่พวกเขายังต้องการที่จะไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่สนามเวมบลีย์ เพื่อให้เส้นทางของพวกเขาไม่ต้องเดินทางเยอะเกินไป นั่นหมายความว่า หนทางเดียวที่จะเป็นแบบนั้นคือการต้องจบในตำแหน่งแชมป์กลุ่ม A ด้วยการเอาชนะอิตาลีสถานเดียวเท่านั้น
โรเบิร์ต เพจ โค้ชของทีม เตรียมที่จะให้นักเตะที่มีข้อกังวลเกี่ยวกับความฟิตได้พักเช่นกัน เช่น อารอน แรมซีย์ หรือ โจ อัลเลน และนักเตะที่เข้าข่ายจะได้พักอีกส่วนคือบรรดานักเตะที่มีใบเหลืองติดตัวอย่าง คริส เมปาม, เบน เดวิส หรือ คีฟเฟอร์ มัวร์ แต่อาจจะไม่เยอะเท่ากับที่อิตาลีพักผู้เล่นถึง 5 ตำแหน่ง เนื่องจากพวกเขายังต้องการชัยชนะ และยังไม่ได้การันตีว่าจะเข้ารอบแน่นอน 100% ด้วย
ถึงแม้นี่จะเป็นการเจอกับอิตาลีครั้งแรกในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ของเวลส์ แต่ในรายการอื่นๆ รวมถึงเกมอุ่นเครื่อง พวกเขาเจอเจอกันมาบ้างแล้ว และแน่นอนว่าอิตาลีเหนือกว่า โดยชนะได้ 7 นัด จาก 9 นัดหลังสุด ส่วนเวลส์ชนะได้ 2 นัด และทั้งคู่ไม่เคยเสมอกัน ซึ่งนัดที่จบลงด้วยสกอร์ขาดลอยที่สุดของคู่นี้เกิดขึ้นในฟุตบอลยูโรรอบคัดเลือกเมื่อปี 2004 ที่อิตาลีไล่ถล่มเวลส์ไป 4-0 ซึ่งเป็นเกมที่ ฟิลิปโป อินซากี ยิงแฮตทริกได้ภายใน 11 นาที โดยในตอนนั้น โรเบิร์ต เพจ ก็ลงสนามในฐานะนักเตะให้ทัพ ‘มังกรแดง’ อยู่ด้วย
บรีล เอ็มโบโล กองหน้าตัวความหวังของสวิตเซอร์แลนด์
สวิตเซอร์แลนด์ ที่จำเป็นต้องชนะเท่านั้นเพื่อพื้นที่ในรอบน็อกเอาต์
1 คะแนนของสวิตเซอร์แลนด์ มีอยู่ในตอนนี้ยังเพียงพอให้พวกเขาหวังถึงหนทางเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ได้ในเกมนัดสุดท้าย ภายใต้เงื่อนไขในการเอาชนะตุรกีให้ได้ในเกมที่กรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน ซึ่งจะลงสนามฟาดแข้งพร้อมกับคู่ระหว่างอิตาลีกับเวลส์ในเวลา 23.00 น. แต่ถ้าหากเอาชนะทีม ‘ไก่งวง’ ไม่ได้แล้ว ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเสมอ ที่ทำให้พวกเขามี 2 คะแนน ซึ่งไม่น่าจะเพียงพอให้เป็นที่ 3 ที่ดีที่สุด หรือถ้าแพ้ไปเลยก็จะตกไปเป็นที่ 4 และไม่มีลุ้นใดๆ
ชัยชนะเท่านั้นถึงทำให้ทีมจากแดน ‘นาฬิกา’ ไปต่อในรอบน็อกเอาต์ได้ แต่จะเป็นทีมอันดับ 2 หรือ 3 ของกลุ่มนั้น ก็ขึ้นอยู่กับประตูที่พวกเขายิงใส่ตุรกีที่แถมมาพร้อมกับ 3 แต้ม รวมไปถึงผลการแข่งขันอันเป็นใจ โดยต้องลุ้นให้อิตาลีเอาชนะเวลส์ด้วยสกอร์ที่เยอะที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้ผลต่างประตูได้เสียกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบทีมจากสหราชอาณาจักร อันเนื่องมาจากผลเฮดทูเฮดใช้วัดระหว่างพวกเขากับเวลส์ไม่ได้ เพราะเสมอกันมา
วลาดิเมียร์ เพ็ตโควิช เล็งที่จะเปลี่ยนแปลงทีมเล็กน้อยในตำแหน่งกองหน้า หลังจากที่ มาริโอ กาฟราโนวิช ทำผลงานได้ดีจากการลงมาเป็นตัวสำรอง ทำให้น่าจะได้โอกาสแทน ฮาริส เซเฟโรวิช ที่ดูฟอร์มหลุดๆ ไปในเกมที่แล้ว ขณะที่อีกหนึ่งอาวุธอย่าง เดนนิส ซากาเรีย ก็อาจจะได้รับโอกาสในเกมนี้เช่นกัน
ตุรกีพบกับความพ่ายแพ้มาทั้ง 2 เกมก่อนหน้านี้
ชัยชนะที่ไม่ไร้ค่าของตุรกี ถ้าพวกเขาทำได้
ทีมของ เซนอล กูเนส ต้องทำใจในการคาดหวังการเข้ารอบน็อกเอาต์ก่อนลงสนามให้ได้ว่า ต่อให้ชนะก็ไม่ได้จะมีโอกาสลุ้นในการเข้ารอบมากนัก เนื่องจากพวกเขาจะมีเพียง 3 คะแนน และประตูได้เสียปัจจุบันของพวกเขาติดลบถึง 5 ลูก ถึงแม้ชนะสวิตเซอร์แลนด์ได้ จะขึ้นไปแทนในอันดับที่ 3 จากเฮดทูเฮดที่ดีกว่า แต่ถ้าพวกเขาไม่ยิงถล่มทลายจนทำให้ประตูที่ติดลบกลับมาเจ๊าหรือเป็นบวกได้ โอกาสเข้ารอบก็ยังยากอยู่มาก
อย่างไรก็ตาม ข่าวดียังพอมี เพราะการเจอกัน 5 ครั้งกับสวิตเซอร์แลนด์ก่อนหน้านี้ จบลงด้วยชัยชนะของทีม ‘ไก่งวง’ มากกว่าถึง 3 ครั้ง และพลาดท่าแพ้ไปครั้งเดียว และอีกครั้งหนึ่งจบลงด้วยผลเสมอกัน ซึ่งพอจะพูดได้ว่ามีสถิติที่ข่มอยู่บ้าง
โดยทางตุรกีก็อยู่ในสภาพที่พร้อมและไม่มีตัวผู้เล่นบาดเจ็บ ที่สำคัญกว่านั้นคือพวกเขาไม่มีอะไรจะเสีย นั่นทำให้อาจจะไม่มีความกดดันไปในคราวเดียวกัน และไม่แน่ว่าอาจจะสร้างเซอร์ไพรส์ได้ เหมือนกับที่หลายๆ ชาติทำให้เห็นในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาก็ได้
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกม
อ้างอิง:
- https://www.uefa.com/uefaeuro-2020/match/2024468–italy-vs-wales/
- https://www.uefa.com/uefaeuro-2020/match/2024468–italy-vs-wales/
- https://www.bbc.com/sport/football/51197631
- https://www.skysports.com/football/news/19692/12335622/today-at-the-euros-wales-switzerland-and-turkey-look-to-join-italy-in-last-16
- https://www.skysports.com/football/news/19692/12334634/euro-2020-group-stage-permutations-who-needs-what-to-qualify-for-the-last-16