อิตาลีคว้าตั๋วใบแรกจาก 16 ใบในการเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ไปครองได้สำเร็จ และคืนนี้อาจจะมีอีกถึง 2 ทีมที่คว้าโควตาเพิ่มเติมได้ จากเกมทั้งหมด 3 คู่ที่มีกำหนดการลงสนามในค่ำคืนนี้
อันได้แก่คู่แรกเวลา 20.00 น. ยูเครนพบมาซิโดเนียเหนือ ต่อด้วยคู่เวลา 23.00 น. ที่เดนมาร์กพบเบลเยียม และคู่ดึกเวลา 02.00 น. ซึ่งทีมที่ต่างเก็บ 3 คะแนนเต็มในนัดแรกจะมาเจอกันเอง อย่างเนเธอร์แลนด์พบออสเตรีย
เนเธอร์แลนด์ ลงซ้อมกันด้วยสภาพที่ผ่อนคลาย
เนเธอร์แลนด์ vs. ออสเตรีย – การพบกันของผู้มีชัยในนัดแรก โดยมีเดิมพันคือตั๋วไปสู่รอบน็อกเอาต์
นี่เป็นเกมแรกที่เป็นการเจอกันของทีมซึ่งต่างชนะมาในเกมแรก โดย ‘อัศวินสีส้ม’ คว้าชัยชนะเหนือยูเครนมาแบบหืดจับ 3-2 ต้องขอบคุณประตูชัยในช่วงท้ายเกมของ เดนเซล ดุมฟรีส์ ส่วนออสเตรียก็ไล่ทุบมาซิโดเนียเหนืออยู่นานกว่าจะซัดประตูขึ้นนำได้ในครึ่งเวลาหลัง ก่อนจะเอาชนะไปได้ 3-1 ส่งผลให้พวกเขาเป็นทีมจ่าฝูงในกลุ่ม C ในตอนนี้ด้วย
เกมนี้เนเธอร์แลนด์ยังได้เล่นใน โยฮัน ครัฟฟ์ อารีนา ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ซึ่งทำให้พวกเขาได้เปรียบในแง่ของเสียงเชียร์และความคุ้นเคยต่อสิ่งแวดล้อม แต่ฟอร์มในเกมแรกของพวกเขานั้นยังมีเครื่องหมายคำถามอยู่ โดยเฉพาะในเกมรับที่ปล่อยให้ยูเครนไล่ตามตีเสมอได้ทั้งที่นำไปก่อน 2-0 ทำให้ฝั่งของทีม ‘นกกระจอกเทศ’ น่าจะได้ศึกษาและหาช่องทางในการเล่นงานได้ หากพวกเขาไม่ถมช่องว่างตรงนี้ให้ไม่มีรูรั่ว
มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ กลับมาซ้อมกับทีมได้แล้ว และทางโค้ช แฟรงก์ เดอ บัวร์ ก็ยืนยันว่าจะส่งแนวรับจากยูเวนตุสลงช่วยทีมอย่างแน่นอน นั่นทำให้ โจเอล เวลต์มันน์ และ นาธาน อาเก อาจจะต้องไปรอโอกาสที่ม้านั่งสำรอง ขณะที่ในแดนกลางและแดนหน้าจะยังคงใช้นักเตะชุดที่เอาชนะยูเครนมาในเกมก่อน โดยมี มาร์เทน เดอ รูน, เดนเซล ดุมฟรีส์, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, วูท เวกฮอร์สต์ และ เมมฟิส เดอปาย เป็นตัวหลักในเกมนี้
ขณะที่ออสเตรียต้องรับบทเป็นผู้มาเยือนทั้งในนามและในความเป็นจริง แต่นั่นก็คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะที่น่ากังวลกว่าคือการที่ทีมจะไม่มี มาร์โก อาร์เนาโตวิช แนวรุกคนสำคัญที่เกมก่อนไปพูดจาเชิงเหยียดเชื้อชาติใส่ เอซกาน อลิออสกี ผู้เล่นของมาซิโดเนียเหนือหลังทำประตูได้ในเกมก่อน ทำให้ถูกสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ลงดาบแบน 1 นัด ซึ่งจะมีผลในเกมนี้ทันที
ความน่าสนใจอีกอย่างของทีม ‘นกกระจอกเทศ’ คือการที่พวกเขาจะวางตำแหน่งของ ดาวิด อลาบา ไว้ที่ไหน หลังจากที่เกมก่อน ฟรังโก โฟดา สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการจับเขาไปเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ โดยเกมนี้มีการคาดการณ์ว่าเขาอาจจะได้ยืนสูงขึ้นและมีส่วนกับเกมรุกมากขึ้น ซึ่งนั่นอาจจะหมายถึงตำแหน่งปีกหรือมิดฟิลด์ตัวกลางก็เป็นได้
ผู้ชนะของเกมคู่นี้จะมีเพิ่มเป็น 6 คะแนน ซึ่งหมายถึงการการันตีการเข้ารอบน็อกเอาต์ตามอิตาลีไปทันที แต่ถ้าผลออกเสมอก็ถือว่าเป็นผลที่น่าพอใจสำหรับทั้งสองทีม เพราะโอกาสการเข้ารอบต่อไปจะสดใสทีเดียว แม้จะไม่ได้การันตีว่าจะเข้ารอบไปในฐานะทีมอันดับที่เท่าไรก็ตาม
เดนมาร์กจะลงเล่นโดยไร้จอมทัพอย่าง คริสเตียน อิริกเซน
เดนมาร์ก vs. เบลเยียม – ความหมายในนาทีที่ 10 ที่อาจสำคัญกว่าผลการแข่งขัน
อย่างที่มีข่าวมาก่อนหน้านี้ว่า เบลเยียมเตรียมที่จะหยุดเล่นในนาทีที่ 10 ของเกม เพื่อเป็นเกียรติและเป็นกำลังใจให้กับ คริสเตียน อีริกเซน เพลย์เมกเกอร์ของเดนมาร์ก ที่ถูกหามส่งโรงพยาบาลหลังจากหมดสติในสนามในเกมที่พบกับฟินแลนด์เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา แม้เหตุการณ์นี้จะเป็นการแสดงออกในช่วงเวลาสั้นๆ ในเกม แต่ก็เป็นการแสดงออกที่มีความหมาย
อีริกเซนเพิ่งรอดชีวิตมาจากเหตุการณ์เสี่ยงตายอย่างหวุดหวิด การหยุดเล่นในนาทีที่ 10 ซึ่งเป็นตัวเลขเดียวกับหมายเลขหลังเสื้อของเพลย์เมกเกอร์อินเตอร์ มิลาน ไม่ได้ทำเพื่อเป็นเกียรติและเป็นกำลังใจเท่านั้น แต่มันยังมีความหมายถึงการร่วมกันฉลองกับแฟนๆ ที่โคเปนเฮเกน ในสนาม ปาร์เคน พาร์ก ที่นักเตะคนสำคัญของพวกเขาสามารถผ่านพ้นวิกฤตครั้งหนึ่งในชีวิตมาได้ ดังนั้นถึงมันจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่สำหรับอีริกเซนแล้ว น่าจะเป็นภาพเหตุการณ์ที่น่าประทับใจไม่น้อยทีเดียว
แต่พอตัดกลับมาในส่วนของเกม ก็ต้องยอมรับว่าเบลเยียมเป็นฝ่ายเหนือกว่าค่อนข้างเยอะในเกมนี้ พวกเขามี 3 คะแนนตุนอยู่ในกระเป๋า และถ้าชนะเดนมาร์กได้ ‘ปีศาจแดงแห่งยุโรป’ ก็จะเข้ารอบน็อกเอาต์ทันที จึงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าเกมนี้พวกเขาจะเล่นด้วยความมุ่งมั่นและหวังจะเอาชนะอย่างเต็มที่ แม้ว่าจะไม่มี ทิโมธี กาสตาญ ที่ได้รับบาดเจ็บไปจากเกมก่อนและต้องพักรักษาตัวจนจบทัวร์นาเมนต์ก็ตาม แต่ข่าวดีคือ เควิน เดอ บรอยน์ จะพร้อมลงสนามในเกมนี้ ซึ่งจะทำให้ทีมหมายเลข 1 ของโลกยิ่งน่ากลัวมากขึ้นไปอีก
ด้านเดนมาร์ก แน่นอนว่าจะหมดสิทธิ์ใช้งานอีริกเซนที่ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่นอกจากนั้นพวกเขาไม่มีใครบาดเจ็บเพิ่มเติมหรือติดโทษแบนอีกเลย ทำให้ในตำแหน่งอื่นๆ เดนมาร์กสามารถจัดตัวที่ดีที่สุดลงสนามได้อย่างเต็มที่ และตรงข้ามกับเป้าหมายของเบลเยียมที่ต้องการชนะ พวกเขาจะแพ้ไม่ได้ถ้าหากต้องการเข้าไปเล่นในรอบน็อกเอาต์ ดังนั้นแล้ว ทางฝั่งทีม ‘โคนม’ เองก็คงสู้ตายเช่นกัน และไม่นับว่าพวกเขาอาจจะ ‘สู้เพื่ออีริกเซน’ ด้วย ยิ่งทำให้พลังใจทีมอยู่ในระดับที่ประมาทไม่ได้อย่างแน่นอน
โกรัน ปานเดฟ วัย 37 ปี ยังคงเป็นตัวความหวังของมาซิโดเนียเหนือ
ยูเครน vs. มาซิโดเนียเหนือ – การพิสูจน์คุณค่าของผู้แพ้มาในเกมแรก
เกมแรกของวันที่จะแข่งขันกันในกรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย เป็นการเจอกันของ 2 ชาติผู้แพ้มาในเกมแรกอย่างยูเครนและมาซิโดเนียเหนือ ดังนั้น การพ่ายแพ้ในเกมนี้อาจจะหมายถึงโอกาสสูงที่พวกเขาอาจจะต้องตกรอบไป เพราะการมีแค่ 3 คะแนนในรอบแบ่งกลุ่มหลังผ่าน 3 นัด ต้องไปลุ้นหนักพอสมควรว่าจะมีโอกาสไปเล่นในรอบน็อกเอาต์ในฐานะ 1 ใน 4 อันดับ 3 ที่ดีที่สุดหรือไม่
ยูเครนพ่ายแบบไม่น่าแพ้ในเกมพบกับเนเธอร์แลนด์ ซึ่งทำให้เห็นรอยรั่วในเกมรับ และเป็นหน้าที่ของ อังเดรย์ เชฟเชนโก หัวหน้าโค้ช ที่จะต้องแก้ปัญหานั้นในเกมนี้ ปัญหาเดียวของยูเครนคือการที่ โอเล็กซานเดอร์ ซุบคอฟ ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 13 ของเกมพ่ายเนเธอร์แลนด์ ยังไม่ฟิตพอที่จะลงสนามในเกมนี้ ทำให้หน้าที่ในเกมรุกยังคงต้องหวังพึ่ง โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก ต่อไปอย่างน้อยอีก 1 เกม
ส่วนมาซิโดเนียเหนือ ถึงจะไม่มีแต้มเหมือนกับยูเครน แต่ปัจจุบันพวกเขารั้งบ๊วยกลุ่ม เพราะประตูได้เสียที่แย่กว่า ดังนั้น ทางเลือกที่ดีที่สุดของพวกเขาคือการเอาชนะเกมนี้ให้ได้หากยังต้องการที่จะเข้าไปเล่นในรอบน็อกเอาต์ เพราะการจะไปลุ้น 3 คะแนนในสุดท้ายที่จะพบกับเนเธอร์แลนด์น่าจะไม่ใช่ความคิดที่ดีสักเท่าไร ซึ่งมันอาจจะง่ายกว่าถ้าพวกเขาเอาชนะเกมนี้ แล้วไปลุ้นแค่เสมอกับทีม ‘อัศวินสีส้ม’ ในบั้นปลาย
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกม
อ้างอิง:
- https://www.uefa.com/uefaeuro-2020/match/2024444–ukraine-vs-north-macedonia/
- https://www.uefa.com/uefaeuro-2020/match/2024459–denmark-vs-belgium/
- https://www.uefa.com/uefaeuro-2020/match/2024443–netherlands-vs-austria/
- https://www.bbc.com/sport/football/51197575
- https://www.bbc.com/sport/football/57499915