4 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ได้แก่ ไอร์แลนด์ เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ และเช็ก ประกาศคำสั่งขับเจ้าหน้าที่สถานทูตรัสเซียรวม 43 คน ที่ต้องสงสัยว่าเป็นสายลับออกจากประเทศเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (29 มีนาคม) โดยถือเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดที่มีการประสานงานกัน ส่งผลให้จำนวนเจ้าหน้าที่รัสเซียที่ถูกขับออกจากประเทศสมาชิก EU ในเดือนนี้เพิ่มมากกว่า 100 คนแล้ว
โซฟี วิลเมส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศเบลเยียม เปิดเผยต่อสมาชิกรัฐสภาเมื่อวานนี้ว่า เจ้าหน้าที่สถานทูตรัสเซียในกรุงบรัสเซลส์และสถานกงสุลรัสเซียในแอนต์เวิร์ปรวมทั้งหมด 21 คน ถูกขอให้ออกจากประเทศภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์ พร้อมชี้แจงถึงสาเหตุว่าเกี่ยวข้องกับประเด็น ‘ความมั่นคงของชาติ’
วิลเมสเปิดเผยว่า การดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเนเธอร์แลนด์ ซึ่งทางกระทรวงต่างประเทศเนเธอร์แลนด์เปิดเผยว่า ได้มีคำสั่งขับนักการทูตรัสเซีย 17 คนที่ถูกพิจารณาว่า ‘แอบแฝง’ ทำหน้าที่หน่วยข่าวกรองรัสเซีย
ด้าน มิเชล มาร์ติน นายกรัฐมนตรีแห่งไอร์แลนด์ เปิดเผยต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่า รัฐบาลของเขามีคำสั่งขับนักการทูตรัสเซีย 4 คน ออกจากประเทศ หลังได้รับคำแนะนำด้านความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง พร้อมยืนยันว่า การปฏิบัติหน้าที่ของกลุ่มนักการทูตดังกล่าวไม่เป็นไปตามมาตรฐานระหว่างประเทศด้านพฤติกรรมทางการทูต
ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียในกรุงดับลินตอบโต้ว่า ได้ปฏิเสธ ‘การตัดสินใจโดยไร้เหตุผลและหลักฐาน’ ของรัฐบาลไอร์แลนด์ และชี้ว่า กรณีที่เกิดขึ้นนี้จะส่งผลบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและไอร์แลนด์หลังจากนี้
ทางด้านเช็กมีรายงานจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลรายหนึ่งที่เปิดเผยต่อสำนักข่าว AFP ว่า หนึ่งในนักการทูตที่ถูกขับออกจากประเทศเป็นรองเอกอัครราชทูตของรัสเซีย
โดยกระทรวงต่างประเทศเช็กได้ทวีตข้อความถึงการตัดสินใจขับนักการทูตรัสเซียที่เกิดขึ้นว่า เป็นการดำเนินการร่วมกับชาติพันธมิตร เพื่อลดการมีอยู่ของหน่วยข่าวกรองรัสเซียใน EU
ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโปแลนด์ได้ขับนักการทูตจำนวน 45 คน ออกจากประเทศ เนื่องจากต้องสงสัยว่ามีการแอบแฝงปฏิบัติหน้าที่ในฐานะหน่วยสืบราชการลับของรัสเซีย โดย มาริอุสซ์ คามินสกี รัฐมนตรีมหาดไทยของโปแลนด์ ทวีตข้อความว่า เจ้าหน้าที่ข่าวกรองโปแลนด์กำลัง ‘รื้อถอนเครือข่ายปฏิบัติการพิเศษของรัสเซีย’ ที่อยู่ในประเทศ
ขณะที่ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน บัลแกเรีย ลิทัวเนีย และลัตเวีย ซึ่งเป็น 3 ประเทศในกลุ่มรัฐบอลติก ก็มีคำสั่งขับเจ้าหน้าที่สถานทูตรัสเซียรวม 20 คน ออกจากประเทศ เนื่องจากพบความเกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่ที่ขัดต่อสถานะนักการทูต
ซึ่งทางกระทรวงต่างประเทศรัสเซียได้ตอบโต้ความเคลื่อนไหวดังกล่าวด้วยการประกาศยกเลิกการรับรองสถานะของ 10 นักการทูตจากทั้ง 3 ประเทศบอลติก ซึ่งส่งผลให้ทั้งหมดจะต้องเดินทางออกจากรัสเซีย
ภาพ: Photo by Olivier Hoslet / Pool / Photonews via Getty Images
อ้างอิง: