สหภาพยุโรปขึ้นแท่น ‘กลุ่มประเทศแรกของโลก’ ที่มีการวางกรอบทางกฎหมายที่ครอบคลุมสำหรับคริปโต

ฝ่ายนิติบัญญัติของรัฐสภาสหภาพยุโรป ผ่านการอนุมัติร่างกฎหมายที่ครอบคลุม สำหรับการกำกับดูแลอุตสาหกรรมคริปโตอย่าง MiCA (Market in Crypto Acts) เพื่อลดความเสี่ยงของนักลงทุน และสร้างเสถียรภาพในระบบการเงิน ในขณะเดียวกันก็ยังเปิดโอกาสในการสร้างนวัตกรรมทางการเงินได้เป็นที่แรกของโลก

ซึ่งผลการโหวตในสภาของสหภาพยุโรปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (20 เมษายน) ประกอบด้วย เสียงผ่าน 517 เสียง ไม่เห็นด้วยจำนวน 38 เสียง และคาดว่ากฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ภายในปีหน้า (ปี 2024)

ภายในกฎหมายดังกล่าวจะประกอบไปด้วยข้อกำหนดสำหรับแพลตฟอร์มคริปโต ผู้ออกโทเคน รวมไปถึงเทรดเดอร์ ที่จะต้องมีความโปร่งใส-เปิดเผยในธุรกรรมต่างๆ

ไม่เพียงเท่านั้น เหรียญ Stablecoin อย่าง Tether (USDT) หรือ Circle (USDC) ยังต้องมีเงินสำรองที่เพียงพอ เพื่อรองรับสถานการณ์การถอนเงิน ณ เวลาเดียวกันในปริมาณมาก เนื่องจากในขณะนี้เหรียญ Stablecoin ในสกุลเงินยูโรรายหนึ่งรองรับการถอนต่อวันแค่เพียง 200 ล้านยูโร (ประมาณ 7,000 ล้านบาท)

สำนักงานตลาดหลักทรัพย์และตลาดแห่งยุโรป (ESMA) ยังได้รับอำนาจในการปิดหรือแบนแพลตฟอร์มคริปโตใดๆ ก็ตามที่ไม่ดำเนินธุรกิจไปในทิศทางที่ปกป้องนักลงทุน หรือส่งผลร้ายต่อตลาดการเงิน และความมั่นคงของเสถียรภาพทางการเงิน

แต่ถึงอย่างนั้นเอง ทาง ESMA ก็มีการเตือนนักลงทุนว่า การลงทุนในคริปโตเป็นความเสี่ยงสูง ในขณะที่มีเครื่องมือช่วยเหลือที่ค่อนข้างต่ำ

MiCA ยังครอบคลุมไปถึงประเด็นของคริปโตต่อสิ่งแวดล้อมว่า บริษัทคริปโตหรือสินทรัพย์ดิจิทัลหนึ่งๆ มีการส่งผลสิ่งแวดล้อม ทั้งในแง่การใช้พลังงานและผลกระทบอื่นๆ อย่างไรบ้าง

ในสภาดังกล่าวยังมีการผ่านกฎหมาย Transfer of Fund อีกเช่นกัน โดยมีเสียงเห็นด้วย 529 เสียง ต่อเสียงคัดค้าน 29 เสียง เพื่อให้แพลตฟอร์มคริปโตลดความนิรนามในคริปโตลง และสามารถระบุตัวตนของลูกค้าได้มากขึ้น เพื่อจะได้ระงับการฟอกเงินได้อย่างทันท่วงที

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

อ้างอิง: