เอสเตบัน โอคอน นักขับชาวฝรั่งเศสจากทีมอัลพีน-เรโนลต์ คว้าแชมป์ฟอร์มูลาวันรายการแรกให้กับตัวเองและทีมได้สำเร็จ หลังหักปากกาเซียนเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ในการแข่งขันรถสูตรหนึ่งรายการฮังกาเรียนกรังด์ปรีซ์ ที่สนามฮังกาโรริง ในโมเกียวโรด ประเทศฮังการี
โอคอนเอาชนะได้ทั้ง เซบาสเตียน เวตเทล นักขับเยอรมนีจากทีมแอสตัน มาร์ติน และแชมป์โลก 7 สมัย อย่าง เซอร์ ลูอิส แฮมิลตัน จากสหราชอาณาจักร เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก แม้จะออกสตาร์ทจากกริด 8 ด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 4 นาที 43.199 วินาที โดยมีทางด้านเวตเทลเข้ามาเป็นที่ 2 และแฮมิลตันเข้ามาเป็นอันดับที่ 3
โดยนี่เป็นแชมป์รายการแรกในชีวิตของนักขับวัย 24 ปีจากฝรั่งเศส และเป็นการขึ้นโพเดียมครั้งที่ 2 ในอาชีพเท่านั้น แถมยังเป็นแชมป์รายการแรกของกับทีม อัลพีน-เรโนลต์ นับตั้งแต่ร่วมงานกันในปี 2020 และเป็นแชมป์แรกในฤดูกาลนี้ของทีมด้วย
ทว่าหลังการแข่งขันจบลงกลับมีข่าวใหญ่ทำให้ผลการแข่งขันเปลี่ยนแปลง เมื่อเวตเทลถูกตัดสิทธิ์ให้แพ้ในเรซนี้ หลังจากที่ทีมงานของแอสตัน มาร์ติน ไม่สามารถนำน้ำมันเชื้อเพลิงส่งให้กับทีมเจ้าหน้าที่ของฝ่ายจัดการแข่งขันทำการตรวจสอบหลังแข่งได้ เนื่องจากมีน้ำมันเหลือแค่ 0.3 ลิตร แต่ตามกฎระบุว่า รถแข่งที่จบการแข่งขันทุกคันจะต้องมีเชื้อเพลิงเหลือส่งสำหรับตรวจสอบ 1.0 ลิตร
ผลการตัดสินนอกจากจะทำให้แอสตัน มาร์ติน กับเวตเทล พลาดการเป็นอันดับที่ 2 ในเรซนี้แล้ว ยังทำให้นักขับแต่ละคนนับตั้งแต่แฮมิลตันลงไปได้เลื่อนอันดับขึ้นมาอีกคนละอันดับ นั่นหมายความว่า คาร์ลอส ไซน์ นักขับชาวสเปน จากค่ายเฟอร์รารี กลายเป็นอันดับที่ 3 ในเรซนี้แบบส้มหล่น
พร้อมกันนั้น การได้ขึ้นไปเป็นที่ 2 ของแฮมิลตันยังยืดช่องว่างระหว่างเขากับ แม็กซ์ เวอร์สแตพเพน ออกไปอีก แม้ว่าจะขึ้นไปแซงนำในอันดับตารางคะแนนรวมหลังจบเรซนี้อยู่แล้วก็ตาม โดยหากไม่มีการตัดสิทธิ์ของเวตเทล คะแนนของแฮมิลตันจะนำเวอร์สแตพเพนที่ 192 ต่อ 186 แต่หลังจากมีการตัดสิทธิ์ ช่องว่างจึงถ่างออกไปเป็น 195 ต่อ 187 แทน
โดยหลังจากนี้ศึกฟอร์มูลาวันจะพักการแข่งขันนานถึง 3 สัปดาห์ ก่อนจะกลับมาแข่งขันอีกครั้งในวันที่ 29 สิงหาคม ในรายการเบลเยียมกรังด์ปรีซ์ และจะแข่งขันต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ซ้อน ก่อนจะไปพักกันอีกครั้งหลังจบศึกอิตาเลียนกรังด์ปรีซ์ในวันที่ 12 กันยายน
อ้างอิง: