26 คือจำนวนครั้งที่ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ สัมผัสบอลในเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งสู้ยิบตาโดยเฉพาะ มัตส์ ฮุมเมิลส์ ปราการหลังจอมเก๋าที่พยายามสุดชีวิตที่จะหยุดกองหน้าเพื่อนร่วมทีมเก่าให้ได้ตลอดทั้งเกม
ฮุมเมิลส์ทำได้ดีมาโดยตลอด จนกระทั่ง 6 นาทีก่อนหมดเวลา ชูเอา คันเซโล เปิดบอลโค้งด้วยเท้าขวาจากกราบซ้ายเข้าไปที่เสาไกล ในจุดที่ไม่น่าจะมีใครเข้าไปถึงบอลได้ หรือหากไปถึงบอลได้ก็ไม่น่าจะทำอะไรได้ เพราะลูกนั้นทั้งสูง แรง และโค้ง
เผอิญว่านี่คือฮาลันด์ กองหน้าที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ใดๆ กองหน้าในฝันของแฟนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นฝันร้ายของคู่แข่งอีกครั้งเมื่อกระโดดโจนทะยานก่อนที่จะเหยียดขาขึ้นเพื่อส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย เป็นท่ายิงที่พิสดารที่ไม่ใช่ใครก็ทำได้ โดยเฉพาะในเกมระดับนี้
นี่คือประตูที่ทำให้แมนฯ ซิตี้กลับมานำดอร์ทมุนด์อีกครั้งเป็น 2-1 และเป็นประตูชัยในเกมนี้หลังจากที่ จูด เบลลิงแฮม ทำประตูขึ้นนำให้ทีมเยือนได้ก่อนในช่วงต้นครึ่งหลัง ก่อนที่ทำนบจะมาพังเมื่อโดน จอห์น สโตนส์ ซึ่งโดนโยกไปยืนแบ็กขวาตีเสมอในนาทีที่ 80
และนี่คือประตูที่ 13 แล้วของฮาลันด์ในการลงสนามแค่ 9 นัดให้กับแมนฯ ซิตี้ ที่ทำให้เกิดคำถามใหญ่ในเวลานี้ว่า ใครกันที่จะหยุดเขาได้? ซึ่งสิ่งที่มันน่าขนลุกเพิ่มเติมคือการที่ในแต่ละเกมนั้นดาวยิงรายนี้อาจจะมีส่วนร่วมในเกมน้อยมาก การสัมผัสบอลในเกมของเขาแต่ละนัดน้อยจนชวนตกใจ หลายครั้งที่ดูเหมือนเล่นแบบเรื่อยๆ ไม่ได้เร่าร้อนอะไร
แต่เมื่อถึงวินาทีที่เขารอคอย ฮาลันด์จะปรากฏตัวอยู่ ณ จุดนั้นเพื่อทำประตูได้เสมอ
กับประตูนี้ของฮาลันด์ มีหนึ่งคนที่ตื้นตันเป็นพิเศษ และคนนั้นคือ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้ที่รู้สึกเหมือนได้เห็นภาพความทรงจำในอดีตหวนกลับคืนมาอีกครั้ง
ย้อนกลับไปเมื่อนานแสนนาน ในฟุตบอลลีกสเปนฤดูกาล 1973/74 โยฮัน ครัฟฟ์ เจ้าของสมญา ‘นักเตะเทวดา’ เพราะสามารถทำอะไรก็ได้ง่ายดายไปหมดและเล่นด้วยความเหนือชั้นยิ่งกว่าใคร ทำประตูในแบบเดียวกันนี้ในเกมกับแอตเลติโก มาดริด
“คนที่รู้จักผมบางทีอาจจะรู้เรื่องอิทธิพลที่ โยฮัน ครัฟฟ์ มีต่อผม ทั้งในฐานะคนธรรมดา ในฐานะครู ในฐานะที่ปรึกษา ในฐานะโค้ช และในทุกสิ่ง” เป๊ปกล่าวหลังจบเกม
“เมื่อนานมาแล้ว โยฮัน ครัฟฟ์ ยิงประตูมหัศจรรย์ที่คัมป์นูให้บาร์เซโลนาในเกมกับแอตเลติโก มาดริด ซึ่งคล้ายกับที่ฮาลันด์ยิง ในจังหวะที่ฮาลันด์ยิงประตูได้ ผมคิดถึง ‘โยฮัน ครัฟฟ์’ ทันที มันคล้ายกันมาก แต่มันก็เป็นการเปิดบอลที่มหัศจรรย์ของชูเอาและการจบสกอร์ของฮาลันด์ก็พิเศษมาก”
เป๊ปยังเปรียบเทียบเทคนิคการทำประตูของฮาลันด์กับอดีตกองหน้าในทีมบาร์เซโลนาที่เคยอยู่กับเขาในช่วงการคุมทีมครั้งแรกว่า มีอีกคนที่ทำได้คือ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช “ผมยังจำเพื่อนเกลออย่างอิบราฮิโมวิชและความสามารถในการยิงประตูแบบนี้ ซึ่งฮาลันด์ก็มีความคล้ายอยู่เหมือนกัน
“ผมคิดว่ามันเป็นธรรมชาติของเขา ฮาลันด์มีความยืดหยุ่น ความคล่องตัว และนั่นทำให้เขาสามารถที่จะกระโดดไปสัมผัสบอลแบบนั้นและยิงเข้าไปตุงตาข่ายได้ ผมคิดว่าเขาน่าจะได้ความยืดหยุ่นแบบนี้มาจากแม่กับพ่อของเขา”
หลายคนพอรู้ว่า อัลฟ์ อิงเก ฮาลันด์ พ่อของเขา คืออดีตนักฟุตบอลทีมชาตินอร์เวย์ ที่เคยเล่นในพรีเมียร์ลีกกับหลายทีมรวมถึงแมนฯ ซิตี้ ส่วนแม่ของเขา กรี มาริตา เบราต์ (และนั่นคือที่มาของนามสกุล เบราต์ ฮาลันด์) แท้จริงแล้วเป็นนักสัตตกรีฑา (การแข่งกรีฑาประเภทลู่และลานผสม 7 ชนิดของนักกรีฑาหญิง) ซึ่งหากความสามารถทางร่างกายของฮาลันด์จะเป็นมรดกทางชีวิตของทั้งสองก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร
หลังจบเกมฮาลันด์ได้สวมกอดกับเพื่อนเก่าในทีมดอร์ทมุนด์เกือบทุกคน รวมถึงสตาฟฟ์ ก่อนจะถูกนักข่าวถามว่าเพื่อนเก่าทำได้ดีแค่ไหนในการหยุดเขา
ฮาลันด์ตอบว่า “ก็พวกเขาไม่ได้หยุดผม ผมเลยยิงได้ไง”
อ้างอิง: