วันนี้ (17 ธันวาคม) สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช. ที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่าที่ประชุมได้เห็นชอบหลักการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed in Tariff หรือ FiT และราคารับซื้อไฟฟ้าสำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก หรือ VSPP โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก
โดยมอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ดำเนินการออกระเบียบหรือประกาศการรับซื้อไฟฟ้าตามขั้นตอนต่อไป พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการฯ ขึ้นมาเพื่อบริหารจัดการ รวมถึงกำกับดูแลให้โครงการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
โดยเบื้องต้นกำหนดในปี 2563 จะเปิดรับซื้อไฟฟ้า 700 เมกะวัตต์ และกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ แบ่งออกเป็น 2 โครงการคือ Quick Win เป็นโครงการที่ให้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบภายในปี 2563 ซึ่งเปิดโอกาสให้โรงไฟฟ้าที่ก่อสร้างแล้วเสร็จหรือใกล้จะแล้วเสร็จเข้ามาร่วมโครงการ เช่น เบื้องต้นมอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ศึกษาดำเนินโครงการนำร่องที่อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ขนาด 6 เมกะวัตต์ และที่อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขนาด 3 เมกะวัตต์
คาดว่าหากเริ่มก่อสร้างได้ในเดือนมกราคม 2563 จะสามารถจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ปลายปีหน้า เพื่อเป็นโครงการโมเดลต้นแบบให้กับโรงไฟฟ้าชุมชนที่อื่นต่อไป และสำหรับโครงการทั่วไป เปิดโอกาสให้ผู้มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการเป็นการทั่วไปและอนุญาตให้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ในปี 2564 เป็นต้นไป ปริมาณพลังไฟฟ้าที่เสนอขายไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ ใช้วิธีการคัดเลือกโดยกรรมการบริหารการรับซื้อไฟฟ้าฯ จะพิจารณาตามหลักเกณฑ์และคัดเลือกเรียงตามลำดับจากโครงการที่เสนอให้ผลประโยชน์คืนสู่ชุมชนสูงสุดไปสู่ผลประโยชน์ต่ำสุด โดยจะพิจารณารับซื้อจากโครงการ Quick Win ก่อนเป็นลำดับแรก แล้วจึงจะพิจารณารับซื้อจากโครงการทั่วไป
ส่วนรูปแบบการร่วมทุนประกอบด้วย 2 กลุ่มคือ กลุ่มผู้เสนอโครงการ เช่น ภาคเอกชนอาจร่วมกับองค์กรของรัฐ สัดส่วนประมาณร้อยละ 60-90 และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน มีส่วนร่วมถือหุ้นในสัดส่วนประมาณไม่เกินร้อยละ 40 รวมถึงที่ประชุม กพช. ยังเห็นชอบราคารับซื้อไฟฟ้า เช่น จากพลังงานแสงอาทิตย์ 2.90 บาท, ชีวมวลที่กำลังผลิตติดตั้งน้อยกว่าหรือเท่ากับ 3 เมกะวัตต์ 4.84 บาท, ชีวมวลกำลังผลิตติดตั้งมากกว่า 3 เมกะวัตต์ 4.26 บาท, ก๊าซชีวภาพจากน้ำเสีย/ของเสีย 3.76 บาท, ก๊าซชีวภาพจากพืชพลังงาน 100% 5.3725 บาท รวมทั้งกำหนด FiT พรีเมียมให้กับพื้นที่พิเศษที่อยู่ในจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลาเพิ่มอีก 50 สตางค์ต่อหน่วยในทุกชนิดเชื้อเพลิง นอกจากนี้ยังคาดว่าการลงทุนโรงไฟฟ้าชุมชนต่อ 1 เมกะวัตต์จะใช้เงินทุนประมาณ 100 ล้านบาท
นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในช่วงปี 2563-2567 วงเงินรวม 5 หมื่นล้านบาท หรือปีละ 1 หมื่นล้านบาท เพื่อคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานที่มี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จะได้บริหารเงินกองทุนฯ ในการนำไปใช้ส่งเสริม สนับสนุน ช่วยเหลือให้เกิดการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ก่อให้เกิดการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกเพิ่มขึ้น
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
