ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานวันนี้ (26 กรกฎาคม) ติดลบประมาณ 1-2% เช่น PTTEP, TOP, BANPU, RATCH และ EGCO แม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อวานนี้ (25 กรกฎาคม) เนื่องจากสัญญาณของอุปทานที่ตึงตัวมากขึ้น และคำมั่นสัญญาของทางการจีนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก
โดยล่าสุดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดเพิ่มขึ้น 89 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 79.63 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2566 สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ปิดเพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 83.64 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2566 โดยสัญญาน้ำมันดิบทั้ง 2 สัญญา ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยคาดว่าอุปทานจะตึงตัวต่อเนื่อง เนื่องจากการปรับลดกำลังการผลิตจากองค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือ OPEC+
โบรกหั่นคำแนะนำ-ราคาเป้าหมายหุ้น EGCO-RATCH ลง
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ธนชาต ระบุว่า ได้ปรับคำแนะนำ บมจ.ผลิตไฟฟ้า หรือ EGCO ลงเป็น ‘ขาย’ และปรับราคาเป้าหมายลงเหลือ 120 บาท จากเดิมที่ 275 บาท เพื่อสะท้อนอัตรากำไรที่ต่ำกว่าคาดจากโครงการที่ซื้อกิจการเข้ามาใหม่และความล่าช้าในการพัฒนาโรงไฟฟ้าใหม่ มองว่า EGCO ยังคงไม่น่าสนใจแม้ซื้อขายที่ระดับราคาต่ำแล้ว แต่มีกำไรและ ROE ที่ลดลง
โดยสาเหตุที่ปรับราคาหุ้น EGCO ดังกล่าวด้วยเหตุผลดังนี้
- มีการปรับประมาณการกำไรลง 14-18% ในปี 2566-2568 จากอัตรากำไรที่ต่ำกว่าคาดจากโครงการที่เพิ่งซื้อกิจการเข้ามา
- ผลกระทบจากความล่าช้าในการก่อสร้างและเงินลงทุนที่สูงกว่าคาดในโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง Yunlin
- มูลค่าของโครงการเดิมในมือลดลงตามประสิทธิภาพที่ถดถอย และอายุสัญญาที่เหลือน้อยลง
- มองว่า EGCO มีศักยภาพในการเติบโตกำลังการผลิตจำกัดหลังปี 2025F ดังนั้นแม้ราคาหุ้นจะอยู่ในระดับ Valuation ที่ต่ำแล้วก็ตาม แต่เรามองว่ากำไรที่ลดลงและอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ต่ำเป็นปัจจัยกดดัน ROE ของบริษัทฯ
ดังนั้นจึงปรับลดคำแนะนำ EGCO จากเดิม ‘ซื้อ’ เป็น ‘ขาย’ เนื่องจากไม่มีปัจจัยหนุนราคาหุ้น และอัตราผลตอบแทนปันผลที่ 5% นั้นดูน่าสนใจน้อยลงท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่สูงในปัจจุบัน
ส่วน บมจ.ราช กรุ๊ป หรือ RATCH ปรับลดคำแนะนำ RATCH ลงเป็น ‘ขาย’ เนื่องจากประเมินว่ากำไรจะมีแนวโน้มลดลงตั้งแต่ปี 2568 เนื่องจากโครงการขนาดใหญ่ที่มีอัตรากำไรสูงทยอยหมดอายุลง และเชื่อว่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับ RATCH ที่จะหาโครงการใหม่มาทดแทนได้เพียงพอ ปรับราคาเป้าหมายลงเหลือ 33 บาท จากความล่าช้าและผลตอบแทนที่ต่ำกว่าคาดจากโครงการที่เพิ่งซื้อมา
