วันนี้ (27 มกราคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงมาตรการรับซื้ออ้อยของโรงงานต่างๆ ว่าได้ทำข้อตกลงสร้างกติกาให้โรงงานรับอ้อยเผาในแต่ละวันไม่เกิน 25% ซึ่งจากข้อมูลปัจจุบันไม่มีโรงงานใดใน 58 โรงงานรับอ้อยเผาต่อวันเกินกว่าที่กำหนด เฉลี่ยสุดท้ายอยู่ที่ 10-11% ถือว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์
ทั้งนี้ มีมาตรการช่วยเหลือคือจ่ายเงินชดเชยให้กับเกษตรกรที่ตัดอ้อยสดให้ตันละ 120 บาท แต่มาตรการดังกล่าวนั้นสิ้นสุดลงไปแล้ว โดยได้มีการเสนอมาตรการใหม่เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 ซึ่งเป็นการอุดหนุนทั้งการตัดอ้อยสดและรวบรวมใบอ้อยส่งโรงงาน รวมแล้วอยู่ที่ตันละ 120 บาท ขณะเดียวกันยังมีการสนับสนุนเครื่องมืออุปกรณ์ทางการเกษตร โดยได้พูดคุยกับ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อนำใบอ้อยไปผลิตไฟฟ้า
เอกนัฏกล่าวต่อว่า เกษตรกรคงไม่มีการเผาอ้อยเพื่อท้าทายรัฐบาล และไม่มีโรงงานใดกล้าฝ่าฝืนมาตรการการรับซื้ออ้อย แต่การเผาไร่อ้อยนั้นยอมรับว่ายังมีอยู่บ้าง บางพื้นที่เป็นอุบัติเหตุ แต่ในบางพื้นที่เครื่องจักรเข้าไม่ถึงทำให้ต้องมีการเผา ผู้รับเหมาตัดอ้อยยังยึดติดกับวิธีเดิมๆ หากยังคงมาตรการเช่นนี้จนถึงสิ้นฤดูกาลปลายเดือนมีนาคม-เมษายน จะสามารถช่วยเซฟพื้นที่การเกษตรและการเผาในพื้นที่โล่งเป็นล้านไร่ อย่างไรก็ตาม เราจะดำเนินการอย่างเข้มงวด และหลังจากนี้จะต้องมีการออกแบบระบบอย่างยั่งยืนยืน เพราะไม่ชอบการแก้ไขปัญหาแบบเฉพาะหน้าหรือปลายเหตุ