×

ส่องอนาคตหุ้น ‘กลุ่มพลังงาน’ กับเทรนด์น้ำมันขาขึ้น

06.01.2021
  • LOADING...
ส่องอนาคตหุ้น ‘กลุ่มพลังงาน’ กับเทรนด์น้ำมันขาขึ้น

จากวิกฤตโควิด-19 ในปี 2563 ที่ผ่านมา ทำให้ ณ ช่วงเวลาหนึ่งราคาน้ำมันดิบโลกอย่าง WTI ปรับตัวลดลงไปติดลบถึงประมาณ 37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก่อนที่ราคาจะฟื้นตัวกลับมาได้ และค่อยๆ ขยับเป็นขาขึ้นนับแต่มีการประกาศความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา 

 

ช่วงสองเดือนที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากระดับประมาณ 35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มายืนเหนือ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล คิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 40% ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์หลายรายก็ค่อนข้างมีมุมมองเชิงบวกต่อการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่องในปีนี้ 

 

ปัจจัยบวกล่าสุดคงจะหนีไม่พ้นการเซอร์ไพรส์ตลาดโดย ‘ซาอุดีอาระเบีย’ ด้วยการอาสาลดกำลังการผลิตเพิ่มอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม 2564 ทำให้ราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นราว 5% และดึงให้หุ้นในกลุ่มพลังงานทั่วโลก รวมถึงหุ้นพลังงานของไทย ปรับขึ้นตามไปด้วย 

 

 

จักรพงศ์ เชวงศรี ผู้อำนวยการอาวุโส บล. กสิกรไทย มองว่า ราคาน้ำมันดิบมีโอกาสวิ่งขึ้นไปทดสอบระดับ 55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงเดือนเมษายนนี้ เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้น และการปรับลดกำลังการผลิตที่มากกว่าคาดของกลุ่มโอเปก

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากเดือนเมษายนไปแล้ว ราคาน้ำมันดิบมีโอกาสที่จะอ่อนตัวลงมา แต่ก็ยังน่าจะทรงตัวอยู่บริเวณ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยปัจจัยกดดันหลักคือ ราคาน้ำมันในระดับ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ถือเป็นจุดคุ้มทุนของผู้ผลิตน้ำมันจาก Shale Oil แล้ว จึงอาจจะเห็นผู้ผลิตกลุ่มนี้กลับมาผลิตเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่สามารถทำสัญญาระยะยาวเพื่อล็อกราคาขายไว้ 

 

“หลังจากที่ดีมานด์ต่อน้ำมันเพิ่มขึ้นถึงจุดหนึ่ง และเริ่มมีการผลิตเพิ่มขึ้น อาจเห็นราคาน้ำมันอ่อนตัวลงมาได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งในช่วงนี้หุ้นกลุ่มพลังงานจะยังได้รับผลบวกจากราคาผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น และกำไรพิเศษจากสต๊อกน้ำมัน โดยเฉพาะกลุ่มต้นน้ำและกลุ่มโรงกลั่น อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นในกลุ่มเหล่านี้ปรับตัวขึ้นมาสูงกว่าราคาเป้าหมายในระยะสั้นแล้ว”

 

สำหรับนักลงทุนที่มีหุ้นอยู่แล้ว อาจจะถือต่อไปได้ แต่หากหลังเดือนเมษายนไม่ได้มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา ก็อาจพิจารณาขายทำกำไร สำหรับนักลงทุนที่ไม่ได้มีหุ้นอยู่ อาจต้องเลือกหุ้นที่ยัง Laggard เช่น กลุ่มโรงกลั่น อาทิ บมจ. ไทยออยล์ (TOP) หรือบมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) 

 

ด้านนักวิเคราะห์ บล. บัวหลวง ระบุว่า แม้ว่าโควิด-19 เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ แต่เรามองว่าจะไม่ได้กดดันอุปสงค์น้ำมันเหมือนในรอบแรกช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน 2563 เพราะว่าเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว และการล็อกดาวน์คาดจะไม่ส่งผลรุนแรงเหมือนในรอบแรก ประกอบกับปัจจัยหนุนจากการแจกจ่ายวัคซีนทั่วโลก

 

โดยภาพรวมเราคงน้ำหนักการลงทุนของกลุ่มพลังงานเป็น NEUTRAL โดยหุ้นเด่นในกลุ่มเลือก PTT ซึ่งเป็นธุรกิจต้นน้ำ (Upstream) เทียบกับ PTTEP ที่ราคาหุ้นได้สะท้อนราคาน้ำมันที่ขึ้นมาแล้ว ขณะที่ PTT ยังมีปัจจัยบวกจากกำไรที่จะเติบโตจากทุกหน่วยธุรกิจ นอกจากนี้มองว่า TOP จะได้ประโยชน์ทางตรงจากค่าการกลั่นดีเซลที่จะปรับตัวขึ้นจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จะกลับมา อย่างไรก็ดี แนะนำขายสำหรับ BANPU เพราะราคาหุ้นที่วิ่งขึ้นมาได้สะท้อนปัจจัยบวกไปแล้ว

 

 

ด้าน บล. โนมูระ พัฒนสิน มองว่า ปี 2564 เป็นปีแห่งการฟื้นตัวของกลุ่มพลังงาน จาก 1. ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันลดลง หลังราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว 2. อัตรากำไรของกลุ่มที่ฟื้นตามส่วนต่างราคาปิโตรเลียม จากสถานการณ์คลังน้ำมันทั่วโลกผ่อนคลายมากขึ้น โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ตะวันออกกลาง และเอเชีย 3. ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ (Spread) ปิโตรเคมีฟื้นตัวจากแรงกดดันของอุปทานส่วนเกินที่ลดลง หลังอุปสงค์ทั่วโลกฟื้นตามเศรษฐกิจ 4. การปิดซ่อมของโรงก๊าซธรรมชาติ โรงกลั่น และโรงปิโตรเคมี ลดลง ส่งผลให้คาดกำไรปกติของกลุ่มในปีนี้ +207% จากปีก่อน 

 

ทั้งนี้เรายังคงหุ้นเด่นเป็นกลุ่มต้นน้ำ ได้แก่ PTT และ PTTEP ที่ได้ประโยชน์จากน้ำมันดิบฟื้นตัวเร็วสุด อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาหุ้นในกลุ่มที่ปรับขึ้นเร็วรับความคาดหวังการฟื้นตัวของธุรกิจและกำไรล่วงหน้าไปถึงช่วงก่อนโควิด-19 จึงมองว่าหุ้นที่เต็มมูลค่าอย่าง SPRC ที่มีปัจจัยบวกกำไรปกติไตรมาส 4 ปี 2563 เติบโตทั้ง YoY และ QoQ รวมถึง IVL ที่มีปัจจัยบวกจากกำไรปกติในปี 2564 ฟื้นจากการปิดซ่อมที่ลดลงมาก สามารถถือต่อได้ (Let Profit Run) แต่แนะนำขายทำกำไรหุ้น IRPC ที่ราคาปรับขึ้นเร็วสะท้อน Spread ผลิตภัณฑ์หลักที่ดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ปี 2563 ไปแล้ว ในขณะมีแรงฉุดจากค่าใช้จ่ายพนักงานสำหรับไตรมาส 4 ปีก่อนรออยู่

 

 

ภาพประกอบ: อนงค์นาฎ วิวัฒนานนท์

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising